Tips | 10 ฟีเจอร์ (ไม่ลับ) น่าลองบน YouTube ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

YouTube เป็นอีกหนึ่งแอปที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว รู้หรือไม่ว่าในแอป YouTube ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีอีกหลายฟีเจอร์ดี ๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ในวันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 ฟีเจอร์ไม่ลับที่จะทำการใช้งาน YouTube สะดวก และปลอดภัยมากขึ้นมาฝากกันครับ

1) แจ้งเตือนให้พักผ่อน

เคยเป็นไหม เวลาจะดู Youtube ก่อนจะเข้านอนแค่แป๊ปเดียว แต่ดูไปดูมาแล้วดันเพลิน เหลือบไปมองเวลาอีกทีดันเลยเวลานอนเป็นชั่วโมง ๆ ซะงั้น หรือไม่ก็ดูเพลินหลายชั่วโมงจนปวดตาไปหมด ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเปิดฟีเจอร์ลับที่คอยเตือนให้พักผ่อนขณะดูคลิปบ้าง โดยสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เข้าหน้าบัญชีของเราที่มุมบนขวามือ
  2. เลือกเมนู การตั้งค่า
  3. เลือกเมนู ทั่วไป
  4. กดเลือกเปิด เตือนให้ฉันพักสายตาบ้าง พร้อมตั้งความถี่ของระยะเวลาการแจ้งเตือน
  5. กดเลือกเปิด เตือนเมื่อถึงเวลาเข้านอน พร้อมตั้งช่วงเวลาเพื่อให้แอปช่วยเตือน และสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนหลังคลิปจบ หรือเตือนทันทีเมื่อถึงเวลาด้วย

เมื่อถึงเวลาแจ้งเตือนหน้าต่างก็จะขึ้นมาแบบนี้เลย

2) ดูสถิติการใช้งาน YouTube

หากอยากรู้ว่าเฉลี่ยแล้วในหนึ่งวัน หรือหนึ่งอาทิตย์ เราใช้เวลาไปกับการดู YouTube ไปแล้วกี่ชั่วโมง เราก็สามารถเช็คสถิติการรับชมของเราผ่าน YouTube ได้ด้วย เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เข้าหน้าบัญชีของเราที่มุมบนขวามือ
  2. กดเลือกเมนู เวลาที่ใช้ในการดู

เพียงเท่านี้เราก็จะเห็นสถิติเฉลี่ยในแต่ละวัน รู้ว่าวันนี้เราดูคลิปไปแล้วกี่ชั่วโมง หรือจะดูสถิติเมื่อ 7 วันที่ผ่านมาได้ ถ้าหากรู้สึกว่าในหนึ่งวันเราใช้เวลากับ YouTube มากเกินไปก็สามารถเลือกเปิดฟีเจอร์เตือนให้ฉันพักสายตาบ้าง และฟีเจอร์เตือนเมื่อถึงเวลาเข้านอนได้เลยทันทีที่เมนูตั้งค่าด้านล่าง

3) หยุดเก็บประวัติการดู และประวัติการค้นหาชั่วคราว

เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้ Google Account ร่วมกับคนในบ้าน เช่นใช้ Google Account บัญชีเดียวเชื่อมต่อกับ Smart TV ดูร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งหลายคนก็มีคอนเทนต์ที่ดูไม่เหมือนกันทำให้อัลกอริทึมที่แนะนำคลิปมาให้เราเกิดความสับสนได้ ซึ่งเราสามารถใช้ฟีเจอร์หยุดเก็บประวัติการดู และประวัติการค้นหาชั่วคราวได้ผ่านการตั้งค่าดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เข้าหน้าบัญชีของเราที่มุมบนขวามือ
  2. เลือกเมนู การตั้งค่า

  3. เลือกเมนู ประวัติและความเป็นส่วนตัว
  4. กดเลือกเปิด หยุดเก็บประวัติการดูชั่วคราว > กดยืนยัน
  5. กดเลือกเปิด หยุดเก็บประวัติการค้นหาชั่วคราว > กดยืนยัน

ทั้งนี้ฟีเจอร์ที่ว่านี้ไม่มีระบบเปิด/ปิดแบบออโต้ หากต้องการจะเปิดการเก็บประวัติอีกครั้งต้องเข้าไปตั้งค่าเพื่อเปิดด้วยตัวเอง

4) เปิดโหมดไม่ระบุตัวตน

ถ้าไม่อยากเสียเวลาเข้าไปตั้งค่าหลายขั้นตอนเพื่อเปิดฟีเจอร์หยุดเก็บประวัติการดู และประวัติการค้นหาชั่วคราวแล้วล่ะก็ ยังมีอีก 1 วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ YouTube ไม่เก็บประวัติการรับชม หรือค้นหาคลิป ซึ่งวิธีที่ว่าคือการเปิดใช้ฟีเจอร์โหมดไม่ระบุตัวตนนั่นเอง วิธีเปิดก็ง่าย ๆ มีแค่ไม่กี่สเตปดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เข้าหน้าบัญชีของเราที่มุมบนขวามือ
  2. เลือกเมนู เปิดโหมดไม่ระบุตัวตน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ไม่ระบุตัวตนแล้วประวัติการค้นหา และประวัติการรับชมของเราในโหมดนี้ก็จะไม่ถูกบันทึกใด ๆ ทั้งสิ้น และเมื่อไม่ได้ใช้งานไปสักพักแอปก็จะทำการปิดฟีเจอร์ที่ว่านี้ให้เองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าอยากปิดหลังรับชมเสร็จก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงกดที่รูปโลโก้คนใส่หมวกพรางตัวที่มุมบนขวามือ > ปิดโหมดไม่ระบุตัวตน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้ก็มีข้อจำกัดเช่น ดูคอนเทนต์ที่จำกัดอายุผู้ชมไม่ได้ และฟีเจอร์ YouTube Premium ก็จะถูกปิดใช้งานทั้งหมด หากอยากดูคลิปแบบไม่มีโฆษณาก็ต้องใช้งานในโหมดปกตินั่นเอง

5) กรองคอนเทนต์ผู้ใหญ่ ที่มีเนื้อหาหยาบคาย หรือรุนแรง

ผู้ปกครองหลาย ๆ คนอาจให้ลูกหลานของท่านดู YouTube เพื่อความบันเทิงบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งบางทีก็อดห่วงไม่ได้ว่าลูกหลานจะเข้าไปดูคอนเทนต์อะไรที่มีเนื้อหาหยาบคาย และรุนแรงเกินวัยรึเปล่า ฟีเจอร์นี้จะช่วยกรอก และซ่อนเนื้อหาที่รุนแรงสำหรับผู้ใหญ่ออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ ดูคลิปเหล่านั้นอย่างไม่ตั้งใจ โดยสามารถเปิดใช้งานได้เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เข้าหน้าบัญชีของเราที่มุมบนขวามือ
  2. เลือกเมนู การตั้งค่า
  3. เลือกเมนู ทั่วไป
  4. กดเลือกเปิด โหมดที่จำกัด ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ทาง YouTube ได้ระบุไว้ว่าฟีเจอร์นี้อาจจะไม่สามารถกรองเนื้อหาได้แบบ 100% ผู้ปกครองอาจจะต้องคอยกำกับดูแลบุตรหลานในการใช้งาน YouTube อยู่ หรือไม่อย่างงั้นอาจจะต้องใช้แอปสำหรับเด็กอย่าง YouTube Kids ซึ่งมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับเด็กเท่านั้น

6) ปิด Autoplay ไม่ให้เล่นคลิปอัตโนมัติ

โดยปกติแล้ว YouTube มักเปิด Autoplay ที่จะเล่นคลิปแนะนำโดยอัตโนมัติหลังดูวิดีโอจบ ถ้าใครไม่อยากให้ Youtube เล่นคลิปให้เราอัตโนมัติแล้วล่ะก็ สามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เข้าหน้าบัญชีของเราที่มุมบนขวามือ
  2. เลือกเมนู การตั้งค่า
  3. เลือกเมนู เล่นอัตโนมัติ
  4. เลื่อนปิดที่เมนู โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต

หรือถ้าไม่อยากเข้าเมนูตั้งค่าให้เสียเวลาก็สามารถเลื่อนปิดได้ง่าย ๆ ที่สวิตช์ปุ่มเครื่องหมายหยุดที่มุมบนขวามือเวลารับชมคลิปนั่นเอง

7) แชร์คลิป พร้อมกำหนดเวลาเริ่มต้นคลิป (เฉพาะบน YouTube PC)

เวลาเจอช่วงที่น่าสนใจในคลิป YouTube แล้วอยากแชร์ให้เพื่อนได้ดู เราสามารถกำหนดเวลาเริ่มคลิปใน YouTube พร้อมรับลิงก์แชร์ได้โดยไม่ต้องคอยบอกให้เพื่อนเลื่อนคลิปไปที่วินาทีที่เราต้องการได้ แต่ก่อนแชร์เราต้องทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้า YouTube บนเว็บเบราว์เซอร์ > เข้าไปในคลิปที่เราต้องการแชร์
  2. กดปุ่ม แชร์ ที่อยู่ด้านล่างของคลิปวิดีโอ
  3. กดติ๊กถูกที่ช่องเริ่มที่ > กำหนดเวลาที่ต้องการ > กดปุ่ม Enter
  4. คัดลอกลิงก์ และส่งให้เพื่อนได้เลย

ตัวอย่างลิงก์ที่แชร์แบบกำหนดเวลาเริ่มต้นคลิป

8) ตัดคลิปสั้น ๆ ไว้แชร์ให้คนอื่นดู

ฟีเจอร์นี้อาจจะถูกใจสายครีเอเตอร์เป็นพิเศษ เพราะในหลาย ๆ ครั้งที่ในคลิปของเรามีช่วงโมเมนต์พีค ๆ ที่จะสามารถตัดเป็นคลิปแยกเพื่อเรียกคนเข้ามาดูคลิปเต็มของเราได้ แต่ยอดเอนเกจเมนต์ดันไปกองอยู่ที่คลิปสั้นไม่เข้ามาดูคลิปเต็มซะงั้น ฟีเจอร์นี้จะสามารถสร้างคลิปสั้น ๆ จากคลิปเต็มของเราได้ เมื่อผู้ชมเข้ามาดูแล้ว ยอดเอนเกจเมนต์ทั้งหมดก็จะไปรวมกับในคลิปเต็มด้วย แถมยังทำได้ง่าย ๆ ตามนี้เลย

  1. เข้าแอป YouTube > เลือกดูคลิปที่ต้องการจะตัดเป็นคลิปสั้น
  2. มองหาแถบเมนูที่อยู่ใต้ชื่อช่อง เลื่อนไปทางซ้ายกดปุ่ม คลิป 
  3. เลือกช่วงเวลาของคลิปที่ต้องการจะตัด โดยสามารถตัดได้ที่ความยาวสูงสุด 60 วินาที
  4. เพิ่มคำอธิบาย > กดปุ่ม เสร็จสิ้น และรับลิงก์แชร์ไปให้คนอื่น ๆ ดูได้เลย

ตัวอย่างคลิปสั้นที่ตัดผ่าน YouTube

9) ดาวน์โหลดคลิปไว้ดูแบบออฟไลน์

ในวันไหนที่ต้องเดินทางยาว ๆ บนเครื่องบินแล้วไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ หรือมีธุระต้องไปในพื้นที่ห่างไกลแล้วสัญญาณเน็ตไม่สเถียร เราสามารถดาวน์โหลดคลิปบน YouTube ไว้ดูแก้เบื่อแบบออฟไลน์ได้ เพียงทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  1. เข้าแอป YouTube > เลือกดูคลิปที่ต้องการจะดาวน์โหลด
  2. กดปุ่ม ดาวน์โหลด ที่ด้านล่างคลิป > เลือกความละเอียด และกดปุ่มดาวน์โหลด
  3. คลิปที่ดาวน์โหลดแล้วจะอยู่ในเมนู คลังวิดีโอ ที่อยู่ด้านขวาล่าง > เมนู การดาวน์โหลด

สำหรับผู้ใช้แบบปกติจะสามารถดาวน์โหลดได้แค่ 2 ความละเอียดเท่านั้น (360p และ 144p) หากต้องการดาวน์โหลดคลิปที่ความละเอียดที่สูงกว่านั้น ต้องเป็นผู้ใช้ YouTube Premium แบบเสียเงินเท่านั้น

10) ปุ่มคีย์ลัดบน YouTube ที่หลายคนไม่รู้ (เฉพาะบน YouTube PC)

รู้หรือไม่ว่า YouTube มีปุ่มคีย์ลัดเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานในการดูคลิปด้วยนะ เพียงกดปุ่มเหล่านี้บนคีย์บอร์ดอะไรหลาย ๆ ก็จะสะดวกขึ้นทันตาเห็นเลย ทั้งนี้คีย์ลัดที่เรานำมาฝากกันนั้น เป็นคีย์เจอร์ที่เราใช้กันอยู่บ่อย ๆ หากอยากรู้เพิ่มเติมสามารถเข้าดูคีย์ลัดอื่น ๆ ได้ที่ แป้นพิมพ์ลัดสำหรับ YouTube

ปุ่มคีย์ลัด คำสั่ง
Spacebar /k เล่น หรือ หยุดคลิป
m ปิด / เปิดเสียงคลิป
ลูกศรซ้าย / ขวา ย้อนกลับ/กรอคลิปไปข้างหน้า 5 วินาที
j ย้อนคลิปกลับไป 10 วินาที
l กรอคลิปไปข้างหน้า 10 วินาที
ลูกศรขึ้น / ลง เพิ่ม / ลดเสียง
> เร่งสปีดวิดีโอ
< ลดสปีดวิดีโอ
ปุ่มเลข 1—9 ข้ามไปยัง 10% ถึง 90% ของเวลาในวิดีโอ
0 ข้ามไปที่ตอนเริ่มต้นของวิดีโอ
/ ไปที่ช่องค้นหาคลิป
f เปิดโหมดเต็มหน้าจอ
c เปิดซับไตเติ้ล

และนี่คือ 10 ฟีเจอร์ที่ซ่อนอยู่ใน YouTube ที่เราได้รวบรวมมาฝากกัน ซึ่งบางฟีเจอร์ถ้าเราไม่ได้ค้นเข้าไปในเมนูการตั้งค่า ก็แทบจะไม่รู้เลยว่ามีฟีเจอร์นี้อยู่ด้วย เราหวังว่าฟีเจอร์ที่ได้รวบรวมมาทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน YouTube ทุกคนนะครับ

You may have missed

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า