TIPS | วิธีแชร์หน้าจอมือถือเข้าทีวี Android และ iOS ส่งภาพหน้าจอมือถือขึ้น SmartTV ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

จริงอยู่ที่มือถือจอเล็กสามารถดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ครบหมดทุกอย่าง แต่ก็มีบางครั้งที่เราก็อยากดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ใหญ่เต็มตา หรือแม้กระทั่งเวลาต้องการพรีเซนต์งานแบบเร่งด่วนฉุกเฉิน จะให้เปิดสไลด์บนมือถือเพื่อพรีเซนต์ก็จะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ วันนี้เราเลยนำวิธีแชร์หน้าจอมือถือเข้าทีวีมาฝากกัน ทั้งระบบ Android และ iOS

วิธีแชร์หน้าจอมือถือเข้าทีวี Android

วิธีแชร์หน้าจอมือถือ Android เข้าทีวีแบบไร้สาย

ก่อนที่จะแชร์หน้าจอมือถือ Android เข้าทีวี (การแคสต์จอ) ขอให้ตรวจสอบก่อนว่ามือถือในมือตัวเองมาพร้อมระบบ Android 5.0 ขึ้นไปรึเปล่า เพราะระบบส่งภาพขึ้นหน้าจอจะรองรับที่ Android เวอร์ชั่นดังกล่าวเป็นต้นไป ซึ่งถ้ามือถือไม่โบราณจนเกินไปก็น่าจะรองรับกันหมด

อย่างที่สอง ให้ลองตรวจสอบดูว่าทีวีที่ใช้อยู่เป็น SmartTV หรือเป็น TV ที่ใช้ระบบ Android TV OS และใช้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ใช่ SmartTV ส่วนใหญ่จะไม่สามารถแชร์หน้าจอมือถือขึ้นไปบนจอทีวีได้ ต้องใช้ตัวกลางอย่าง Chrome Cast, Mi TV Stick หรือกล่องที่ใช้ระบบ Android TV OS ในการส่งภาพขึ้นไปบน TV

เมื่อตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์พร้อมแล้ว ก็สามารถทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย

  1. เชื่อมต่อ Wi-Fi บนทีวี และมือถือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
  2. ปัดแผงตั้งค่าลัดจากบนจอลงมา เลือกเมนู Screen Cast (ขึ้นอยู่กับแบรนด์จะตั้งชื่อ แนะนำให้สังเกตที่ไอคอนแบบรูปแรกไว้จะดีกว่า)
    • หากหาปุ่ม Screen Cast มือถือไม่เจอ ให้เรากดแก้ไขเมนูลัด (มักจะเป็นไอคอนรูปดินสอ) เพื่อเพิ่มปุ่มเข้าไปบนแผงควบคุม
  3. เมื่อเข้าเมนูแล้วระบบจะโชว์ชื่อทีวี หรืออุปกรณ์ Android TV Box ของเรา ให้กดเลือกเชื่อมต่อเป็นทีวีที่เราต้องการ เป็นอันเสร็จสิ้น

ในกรณีที่มือถือของเราไม่เห็น TV ที่ต้องการจะเชื่อมต่อ ให้ลองตรวจสอบว่ามือถือและทีวีได้เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ตัวเดียวกันหรือไม่ ถ้าเชื่อมต่อ Wi-Fi คนละชื่อกัน ชื่อทีวีก็จะไม่ปรากฏให้เชื่อมต่อบนมือถือ

ส่วนถ้าใครยังหาอุปกรณ์ไม่เจอ เป็นไปได้ว่าทีวีรุ่นที่ใช้งานอยู่อาจไม่รองรับระบบนี้ แต่ก็มีบางเคสที่รองรับระบบ Chromecast แต่ไม่ขึ้นมาให้เชื่อมต่อบนมือถือก็มี เราจึงมีอีก 1 วิธีมาให้ลองกันคือการเชื่อมต่อผ่านแอป Google Home

วิธีแชร์หน้าจอมือถือ Android เข้าทีวีแบบไร้สาย (ผ่าน Google Home)

บางทีจะมีกรณีที่เราใช้อุปกรณ์ที่รองรับระบบ Chromecast อย่างเช่น Mi Stick TV หรือ Android TV Box ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่การต่อผ่านระบบทีวีโดยตรง แต่ระบบ Screen Cast ของมือถือหาชื่ออุปกรณ์นั้น ๆ ไม่เจอ ให้ลองทำตามวิธี ดังนี้

  1. เชื่อมต่อ Wi-Fi บน Chromecast และมือถือ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
  2. ดาวน์โหลดแอป Google Home บนมือถือ พร้อมล็อกอิน Gmail ให้เรียบร้อย
  3. กดเลือกเมนู “อุปกรณ์” ในแอป Google Home จากนั้นเลือกชื่ออุปกรณ์ Chromecast ที่เราต้องการเชื่อมต่อ
  4. เมื่อเข้ามาแล้วให้กดเมนูแคสต์หน้าจอ เป็นอันเสร็จสิ้น

การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ถึงแม้ว่าจะมีความสะดวกไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมก็จริง แต่ก็มีปัญหาเรื่องภาพดีเลย์ หรือภาพไม่ชัด หากอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร หากต้องการเชื่อมต่อให้คุณภาพดีที่สุดอยากแนะนำให้เชื่อมต่อผ่านสายมากกว่า

วิธีแชร์หน้าจอมือถือ Android เข้าทีวีด้วยสาย USB-C

หน้าตาสาย USB-C to HDMI / USB-C HUB มีให้เลือกซื้อตามราคาตั้งแต่หลักร้อย ถึงหลักพัน

วิธีนี้เป็นอีก 1 วิธี ที่สามารถส่งภาพจากมือถือขึ้นไปบนทีวีง่าย ๆ สัญญาณภาพมีความเสถียร ไม่มีดีเลย์ แต่ทั้งนี้จะต้องมีอุปกรณ์อย่างสายแปลง USB-C เป็น HDMI และต้องมั่นใจด้วยว่าพอร์ตชาร์จของมือถือเราจะต้องรองรับ USB-C 3.1 ด้วย ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้ USB-C 2.0 ส่วนใหญ่จะไม่รองรับการแชร์หน้าจอมือถือ ส่วนวิธีการเชื่อมต่อ มีดังนี้

  1. เชื่อมต่อสายแปลง USB-C เป็น HDMI เข้ากับตัวเครื่อง
  2. เปลี่ยนช่องบนทีวีใช้ตรงกับช่อง HDMI ที่เราเชื่อมต่อ เป็นอันเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ การเชื่อมต่อผ่านสายจะมีข้อจำกัดเรื่องสาย ที่อาจทำให้ใช้งานควบคุมไม่สะดวกเท่าที่ควร อาจจะต้องหาสายยาว ๆ มาใช้งานอีกทีนะ

วิธีแชร์หน้าจอมือถือเข้าทีวีระบบ iOS

วิธีแชร์หน้าจอมือถือเข้าทีวีระบบ iOS แบบไร้สายผ่านระบบ Airplay

ระบบการแชร์หน้าจอมือถือ iPhone หรืออุปกรณ์ iOS ต่าง ๆ เข้าทีวี จะทำได้ยุ่งยากกว่าระบบ Android เพราะ Apple มาพร้อมกับระบบแชร์หน้าจอมือถือที่เป็นของตัวเองในชื่อ AirPlay ซึ่งไม่ได้ปล่อยให้ใครใช้ฟรี ๆ เหมือนฝั่ง Android ทำให้มีแบรนด์ทีวีที่รองรับการเชื่อมต่อ AirPlay มีค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่มีแค่ Samsung, LG, Sony และ Hisense เท่านั้น ส่วนวิธีการเชื่อมต่อมีดังนี้

  1. เช็กรุ่น TV ที่รองรับ AirPlay บนเว็บไซต์ Apple
  2. เชื่อมต่อ Wi-Fi บนทีวี และอุปกรณ์ iOS และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอยู่ในเครือข่าย Wi-Fi ชื่อเดียวกัน
  3. เลื่อนแถบเมนูตั้งค่าด่วน หรือ Control Center ขึ้นมา จากนั้นกดที่เมนู Screen Mirorring (ไอคอนรูปจอซ้อนกัน 2 อัน)
  4. เลือกชื่อทีวีที่ต้องการเชื่อมต่อ
  5. กรอกรหัสบนจอ TV ลงในมือถือ จากนั้นกดยืนยันเป็นอันเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ หากทีวีที่ใช้อยู่ไม่รองรับ Apple AirPlay ก็สามารถซื้อกล่อง Apple TV 4K มาเพื่อเชื่อมต่อใช้ระบบ AirPlay ก็ได้ แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเงิน 5,290 บาท เพื่อแชร์หน้าจอมือถือ ก็ยังมีอีก 1 วิธี คือการเชื่อมต่อผ่านสาย USB-C หรือใช้อแดปเตอร์ Lighthning to HDMI นั่นเอง

วิธีแชร์หน้าจอ iPhone และอุปกรณ์ iOS เข้าทีวีด้วยอแดปเตอร์ HDMI (USB-C เฉพาะ iPad)

อะแดปเตอร์ Digital AV แบบ Lightning ราคา 1,990 บาท

สำหรับใครที่ใช้ iPad รุ่นที่มาพร้อม USB-C ทุกรุ่น สามารถเชื่อมต่อทีวีผ่านตัวแปลง USB-C to HDMI เหมือนกับฝั่ง Android ได้เลย แต่ในกรณี iPhone นั้นจะลำบากขึ้นมานิดหน่อย เพราะต้องหาซื้ออแดปเตอร์ Lightning to HDMI เพื่อเป็นตัวกลางแปลงพอร์ตเข้ากับทีวี

ซึ่งอแดปเตอร์ที่ว่านี้ หากซื้อที่เป็นของ Apple โดยตรง จะมีราคา 1,990 บาท แต่ถ้าซื้อในแพลตฟอร์มอื่น ๆ จะมีราคาตั้งแต่หลักสิบ – หลักร้อย สามารถเลือกซื้อกันได้ตามงบที่สะดวก ส่วนวิธีการเชื่อมต่อมีดังนี้

สำหรับอุปกรณ์ iOS ที่ใช้พอร์ต USB-C

  1. เชื่อมต่อสายแปลง USB-C เป็น HDMI เข้ากับตัวเครื่อง
  2. เปลี่ยนช่องบนทีวีใช้ตรงกับช่อง HDMI ที่เราเชื่อมต่อ เป็นอันเสร็จสิ้น

สำหรับอุปกรณ์ iOS ที่ใช้พอร์ต Lightning

  1. เชื่อมต่ออแดปเตอร์แปลง Lightning เป็น HDMI เข้ากับตัวเครื่อง
  2. เสียบสาย HDMI เข้ากับอแดปเตอร์ และทีวี
  3. เปลี่ยนช่องบนทีวีใช้ตรงกับช่อง HDMI ที่เราเชื่อมต่อ เท่านี้เป็นอันเรียบร้อย

นี่คือทั้งหมดของวิธีแชร์หน้าจอมือถือ Android และ iOS เข้า SmartTV ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ใครที่จำเป็นต้องใช้จอแสดงผลใหญ่ ๆ ในการทำงาน หรือต้องการดูคอนเทนต์แบบเต็มตา ก็สามารถนำไปทำตามกันได้

แต่ทั้งนี้ เวลาที่เราแชร์หน้าจอไปบน TV ต้องระวังเรื่องการพิมพ์รหัสผ่าน หรือพวกการแจ้งเตือนแชทต่าง ๆ ด้วย เพราะเมื่อแชร์จอแล้ว ทุกอย่างจะปรากฏบนจอใหญ่หมด อาจทำให้คนรอบตัวที่ดูทีวีอยู่ด้วยกันเห็นสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เห็นได้นะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า