เทียบสเปค Galaxy A35 5G, Galaxy A55 5G และ Nothing Phone (2a) ต่างกันอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร

สัปดาห์นี้มีสมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่น ด้าน Samsung เผยโฉม Galaxy A35 5G พร้อม Galaxy A55 5G แบบแพ็กคู่ ในขณะที่ Nothing พา Nothing Phone (2a) มาบุกตลาดประเทศไทย ซึ่งฟีดแบ็กเบื้องต้นบนโลกออนไลน์ของทั้งสามรุ่นค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ‘เปิดราคาดีเกินคาด’ โดยมีค่าตัวเริ่มต้นที่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท ทาง DroidSans จึงนำข้อมูลตัวเครื่องมาเปรียบเทียบให้ดูว่ามือถือทั้งสามรุ่น แตกต่างกันตรงไหน อย่างไรบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ

Samsung Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G

Samsung ชูจุดเด่น Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ในแง่การถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K โดยโปรโมตว่ามีความคมชัดกว่าเดิมถึง 4 เท่า และคุณสมบัติทนน้ำทนฝุ่นที่ผ่านมาตรฐานทั้ง IPX4 และ IP67 สามารถกันน้ำลึกสุดได้ 1 เมตร และนานสุด 30 นาที

ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใดส่งเครื่องไปทดสอบกับ International Electrotechnical Commission (IEC) ทีเดียวถึงสองมาตรฐาน ซึ่งบางคนอาจสงสัยว่า IP67 เป็น code ที่สูงกว่า IPX4 ในทางเทคนิคก็ควรจะทนน้ำได้เหนือกว่าตามที่ตัวเลขบ่งชี้อยู่แล้ว ทำไมต้องทดสอบด้วยระดับที่ต่ำกว่าอีก คำตอบคือ ทั้งสองมาตรฐานใช้กระบวนการทดสอบที่แตกต่างกัน โดย IPX7 เป็นการทดสอบโดยการจุ่มน้ำ ส่วน IPX4 เป็นการฉีดละอองน้ำอัดใส่จากทุกทิศทาง ดังนั้น การผ่านการรับรองทั้ง IP67 และ IPX4 ก็น่าจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอุปกรณ์ว่าสามารถทนน้ำ (และทนฝุ่น) ได้ดีจริง ๆ

Nothing Phone (2a)

แนวทางของ Nothing นั้นชูจุดขายเรื่องดีไซน์มาแต่ไหนแต่ไร ด้วยการออกแบบฝาหลังแบบโปร่งแสง และไฟ Glyph Interface ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยนอกจากจะใช้เป็นไฟสำหรับการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าได้แล้ว Glyph Interface ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานกับแอปหรือฟีเจอร์บางอย่างเพิ่มเติมได้อีกหลายอย่าง เช่น หากเปิดนาฬิกาจับเวลา ไฟจะค่อย ๆ ดับลงตามเวลาที่เหลือแบบเรียลไทม์ หรือนำมาใช้งานเป็น fill light ในการถ่ายภาพระยะใกล้ ซึ่งจะให้แสงที่นุ่มนวลกว่าแฟลช LED ปกติ เป็นต้น

ความใส่ใจในงานดีไซน์ของ Nothing ยังสะท้อนให้เห็นผ่านขอบหน้าจอที่สมมาตรกันทั้งสี่ด้าน ซึ่งมีให้เห็นเพียงหยิบมือในตลาด แม้แต่ในกลุ่มเรือธงเองก็ตามที เช่นเดียวกับ UI ของระบบที่ออกแบบให้เข้ากันได้ดีกับตัวผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่แค่หน้าตาไอคอนแอป หากแต่ยังรวมถึงฟอนต์ แอนิเมชัน และวิดเจ็ตต่าง ๆ ด้วย

รุ่นไหนเหมาะกับใคร

Galaxy A35 5G – เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย ที่เน้นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง ท่องอินเทอร์เน็ต เล่นเกมเบา ๆ บ้างเป็นบางครั้ง ด้วยความที่ตัวเครื่องมีความเป็น all-around ค่อนข้างสูง ตามสไตล์ของ Samsung นอกจากนี้ยังสามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการได้นานถึง 4 เวอร์ชัน และแพตช์ความปลอดภัยอีก 5 ปี เพิ่มความอุ่นใจในการใช้งานระยะยาว และมีศูนย์บริการฯ ครอบคลุมทั่วประเทศ อุปกรณ์เสริมหาซื้อง่าย มีให้เลือกหลากหลาย

Galaxy A35 5G (รุ่น RAM 8 + 128GB) – ราคา 11,999 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ดูรีวิว

Galaxy A55 5G – ใกล้เคียงกับ Galaxy A35 5G ในทุกด้าน แต่อัปเกรดวัสดุให้พรีเมียมขึ้น ชิปเซตเร็วแรงกว่า เซนเซอร์กล้องหลักใหญ่กว่า และที่สำคัญคือ มีตัวเลือกความจุ 256GB ที่รุ่นเล็กให้ไม่ได้ ซึ่งถ้าใครมองว่า Galaxy A35 5G ยังขาดอะไรอยู่อีกนิด ๆ หน่อย อยากได้สเปคที่ขยับขึ้นมาอีกนิด Galaxy A55 5G ก็น่าจะตรงโจทย์

Galaxy A55 5G (รุ่น RAM 8 + 128GB) – ราคา 13,999 บาท
Galaxy A55 5G (รุ่น RAM 12 + 256GB) – ราคา 15,999 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ดูรีวิว

Nothing Phone (2a) – เหมาะสำหรับคนที่เบื่อความซ้ำซากจำเจของมือถือในตลาด ที่ปัจจุบันไม่ได้มีดีไซน์ฉีกหนีกันมากนัก นอกจากนี้น่าจะยังเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์แบบ ‘เพียวแอนดรอยด์’ โล่ง ๆ คลีน ๆ ใกล้เคียงกับความดั้งเดิมมากที่สุด โดยเฉพาะคนที่อาจจะอยากลองใช้งานมือถือ Pixel ของ Google แต่ไม่อยากเสี่ยงกับเครื่องหิ้ว หรือจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามแต่ ซึ่ง Nothing Phone (2a) นั้นมีความคล้ายคลึงอยู่มาก ถ้าไม่นับรูปร่างภายนอกกับธีมที่มาครอบทับ

Nothing Phone (2a) (รุ่น RAM 8 + 128GB) – ราคา 11,499 บาท
Nothing Phone (2a) (รุ่น RAM 12 + 256GB) – ราคา 12,999 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี Nothing Phone (2a) อาจมีจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมคือ ‘บริการหลังการขาย’ เนื่องด้วยความที่แบรนด์ยังใหม่อยู่มาก ทำให้มีศูนย์บริการฯ ไม่ครอบคลุม กระบวนการส่งซ่อมอาจไม่สะดวกเท่าคู่แข่ง ประกอบกับ Nothing ยังไม่เปิดบริการรับซ่อมในประเทศไทย (ถ้าเสียก็เปลี่ยนเครื่องใหม่อย่างเดียว) จึงอาจสร้างความลำบากให้ผู้ใช้งานกรณีเครื่องเสียหลังหมดประกัน ซึ่งก็เป็นจุดที่ต้องรอให้ปรับปรุงต่อไป

	Galaxy A35 5G	Galaxy A55 5G	Nothing Phone (2a)

จอภาพ	sAMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว 1,080 x 2,340 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz ความลึกสี 8-bit ความสว่าง 1,000 นิต (HBM) Gorilla Glass Victus+	sAMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว 1,080 x 2,340 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz ความลึกสี 8-bit ความสว่าง 1,000 นิต (HBM) Gorilla Glass Victus+	Flexible AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว 1,084 x 2,412 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz ความลึกสี 10-bit ความส่าง 1,100 นิต (HBM) Gorilla Glass 5
ชิปเซต	Exynos 1380	Exynos 1480	Dimensity 7200 Pro
หน่วยความจำ	8 + 128GB รองรับ microSD card	8 + 128GB 12 + 256GB รองรับ microSD card	8 + 128GB 12 + 256GB
กล้องหลัง	กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.8), OIS + VDIS กล้องอัลตราไวด์ 8MP (𝑓/2.2), 123˚ กล้องมาโคร 5MP (𝑓/2.4) 4K ที่ 60 fps	กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.8), OIS + VDIS กล้องอัลตราไวด์ 12MP (𝑓/2.2), 123˚ กล้องมาโคร 5MP (𝑓/2.4) 4K ที่ 60 fps	กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.88), OIS + EIS กล้องอัลตราไวด์ 50MP (𝑓/2.2), 114˚ 4K ที่ 60 fps
กล้องหน้า	13MP (𝑓/2.2)	32MP (𝑓/2.2)	32MP (𝑓/2.2)
ลำโพง	สเตอรีโอ	สเตอรีโอ	สเตอรีโอ
เครือข่าย	5G รองรับ Dual SIM	5G รองรับ Dual SIM	5G รองรับ Dual SIM
การเชื่อมต่อ	Wi-Fi 802.11a/n/g/n/ac/ax Bluetooth 5.3 NFC	Wi-Fi 802.11a/n/g/n/ac/ax Bluetooth 5.3 NFC	Wi-Fi 802.11a/n/g/n/ac/ax Bluetooth 5.3 NFC
พอร์ต	USB Type-C 2.0	USB Type-C 2.0	USB Type-C 2.0
แบตเตอรี่	5,000 mAh ชาร์จไว 25W	5,000 mAh ชาร์จไว 25W	5,000 mAh ชาร์จไว 45W
สแกนลายนิ้วมือ	ใต้หน้าจอ	ใต้หน้าจอ	ใต้หน้าจอ
ทนน้ำทนฝุ่น	IPX4 IP67	IPX4 IP67	IP54
ระบบปฏิบัติการ	One UI 6.1 (Android 14) อัตเดต 5 ปี	One UI 6.1 (Android 14) อัตเดต 5 ปี	Nothing OS 2.5 (Android 14) อัปเดต 4 ปี
ขนาด	161.7 x 78 x 8.2 มม.	161.7 x 77.4 x 8.2 มม.	161.74 x 76.3 x 8.6 มม.
น้ำหนัก	209 มม.	213 มม.	190 กรัม
ราคา (เริ่มต้น)	11,999.-	13,999.-	11,499.-