นอกจากฝั่งของมือถือจอพับอย่าง Samsung Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 แล้ว ทางแบรนด์เขาก็ได้เตรียมอีกสองซีรีส์สินค้ามาเปิดตัวพร้อม ๆ กันในงาน Galaxy Unpacked 2023 รอบที่ 2 ของปี 2023 ด้วยเช่นกัน ใครที่กำลังรอ Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series กันอยู่ก็เตรียมเฮได้เลย เพราะในรอบนี้มาแน่ ๆ ส่วนจะมากับสเปคอะไรบ้าง เราก็ได้รวบรวมทุกข้อมูลหลุดมาไว้ที่นี่หมดแล้ว

*ข้อมูลสเปคทั้งหมดยังไม่มีการคอนเฟิร์มใด ๆ จากทาง Samsung เป็นแค่การรวบรวมสเปคจากข่าวที่หลุดออกมาเท่านั้น เมื่อมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อนได้*


สรุปสเปคหลุด Samsung Galaxy Tab S9 Series

ปรับดีไซน์นิดหน่อย ให้เหมือน Galaxy S23 Series



Samsung Galaxy Tab S9 / Tab S9+ / Tab S9 Ultra  จะมาพร้อมกับดีไซน์ Unibody วัสดุโลหะเรียบ ๆ มีแถบแม่เหล็กสีดำยาวสำหรับแปะปากกา ซึ่งภาพรวมดีไซน์ยังดูค่อนข้างคล้ายกับในรุ่นเดิม แต่ส่วนที่แตกต่างจะอยู่ที่กล้องหลังที่ใช้ดีไซน์กล้องไร้ฐาน มีเพียงแค่ส่วนเลนส์ที่ยื่นออกมาจากตัวเครื่อง ไม่ได้ใช้ดีไซน์แคปซูลแบบเก่า

ซึ่งทาง Samsung อาจจะต้องการเปลี่ยนดีไซน์ให้ดูเหมือนกับใน Galaxy S23 Series ก็เป็นได้ เพราะ Ax4 Series ก็ได้เปลี่ยนกันหมดแล้ว

เปลี่ยนจอใหม่เป็น Dynamic AMOLED X2 ยกแผง



Samsung Galaxy Tab S9 Series ทั้งหมด 3 รุ่นจะได้รับการอัปเกรดจอแสดงผลใหม่หมดจด โดยจะอัปเกรดไปใช้พาเนลตัวท็อปที่สุดจาก Samsung อย่าง Dynamic AMOLED 2X ทุกรุ่น รองรับรีเฟรชเรทสูง 120Hz สามารถปรับความลื่นได้แบบ Adaptive ตามการใช้งาน ดูคอนเทนต์ HDR10+ ได้สีสดเต็มตา รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แถมยังมาพร้อมกับลำโพง 4 ตัวที่เสียงดีขึ้นกว่าเดิม 25% ด้วย ส่วนขนาดจอโดยรวมแล้วจะยังเท่าเดิม ดังนี้

  • Galaxy Tab S9 รุ่นมาตรฐาน จอ 11 นิ้ว
  • Galaxy Tab S9 Plus จอ 12.4 นิ้ว
  • Galaxy Tab S9 Ultra จอ 14.6 นิ้ว

ตัวเครื่องทนน้ำ ทนฝุ่น IP68 เป็นครั้งแรก

ถึงแม้ Samsung Galaxy Tab S series จะมีการเปิดตัวออกมาหลายรุ่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังไม่เคยมีรุ่นไหนที่มาพร้อมกับความสามารถทนน้ำ ทนฝุ่นแบบจริง ๆ จัง เพราะฟีเจอร์นี้ส่วนใหญ่จะไปอยู่ในไลน์ถึกทน Galaxy Active Series แทน แต่ในรอบนี้ทาง Samsung ได้เตรียมยกระดับ Galaxy Tab S9 Series เพื่อการใช้งานสำหรับสายลุยโดยเฉพาะ เพราะทั้ง Galaxy Tab S9 / Tab S9+ / Tab S9 Ultra จะทนน้ำ ทนฝุ่นที่ระดับ IP68 แล้ว

รุ่นเริ่มต้นตัดกล้อง Ultrawide ส่วนรุ่นอื่นได้อัปความละเอียด



Samsung Galaxy Tab S9 รุ่นเล็กสุดจะมีการตัดกล้อง Ultrawide ออกไป เหลือเพียงแค่กล้องหลักความละเอียด 13MP เท่านั้น ส่วนอีก 2 รุ่นถึงแม้ว่าจะได้กล้องหลักตัวเดิมกับในรุ่นก่อน แต่ก็จะได้กล้อง Ultrawide ความละเอียดสูงกว่าเดิมจาก 6MP เป็น 8MP ซึ่งสรุปแล้วสเปคกล้องใหม่ของทั้ง 3 รุ่นจะมีดังนี้

  • Galaxy Tab S9 : กล้องหน้า 12MP | กล้องหลัง 13MP
  • Galaxy Tab S9 Plus : กล้องหน้า 12MP | กล้องหลังคู่ 13MP + Ultrawide 8MP
  • Galaxy Tab S9 Ultra : กล้องหน้าคู่ 12MP + Ultrawide 12MP | กล้องหลังคู่ 13MP + Ultrawide 8MP

รุ่นเริ่มต้นได้แบตเตอรี่เพิ่ม ส่วนรุ่นอื่นเท่าเดิม

ด้านความจุแบตเตอรี่นั้น Samsung Galaxy Tab S9 จะได้รับการอัปเกรดความจุนิดหน่อยจาก 8,000 mAh เป็น 8,400 mAh ทำให้ใช้งานได้นานกว่าเดิม ส่วนในรุ่น Galaxy Tab S9 Plus ยังคงอยู่ที่ 10,900 mAh เช่นเดียวกับรุ่น Ultra ที่มาในความจุ 11,200 mAh เหมือนเดิม

ทุกรุ่นได้ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 (อาจเป็นรุ่น for Galaxy)

สำหรับเรื่องประสิทธิภาพนั้น Galaxy Tab S9 Series ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับชิปสุดปังอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ที่พัฒนาเรื่องความแรง และเรื่องการระบายอุณหภูมิได้ดีกว่า Snapdragon 8 Gen 1 นอกจากนี้ถ้าสัญญาของ Qualcomm และ Samsung ยังเหนียวแน่นอยู่ ก็อาจจะใช้ชิปรุ่นปรับสปีดพิเศษอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ด้วย

ด้านความจุคาดว่าแท็บเล็ตตัวท็อปสุดอย่าง Galaxy Tab S9 Ultra จะได้เขยิบไปใช้ RAM LPDDR5x และ ROM รุ่นใหม่ UFS 4.0 ที่สามารถทำความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้สูงกว่า UFS 3.1 ถึง 2 เท่า แต่ทั้งนี้รุ่นความจุเริ่มต้นจะยังได้ใช้ UFS 3.1 อยู่ เพื่อทำราคาให้เข้าถึงได้ง่าย โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ความจุดังนี้ 8GB +128GB (UFS 3.1) / 12GB + 256GB และ 16GB + 512GB (UFS 4.0)

ส่วนรุ่นมาตรฐาน และรุ่น Plus ณ ตอนนี้ยังไม่ข้อมูลด้านชนิดความจุออกมา แต่รุ่นความจุนั้น Tab S9 จะมีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ 8GB + 128GB  และ 12GB + 256GB และ Tab S9 Plus จะมีเพียงแค่รุ่นความจุเดียวเท่านั้นคือ 12GB + 256GB

มาพร้อมตัวเครื่องสีใหม่ให้เลือก


นอกจากจะมีสีมาตรฐานอย่างสีดำ Graphite และสีเงิน Silver ให้เลือกเป็นสีมาตรฐานแล้ว ยังมีข่าวลือมาว่าในรุ่นนี้จะมีตัวเครื่อง 2 สีใหม่อย่าง สีน้ำเงิน Dark Blue และสีครีม Beige ให้เลือกเพิ่มเติมด้วย สำหรับสีน้ำเงินนั้นเคยมีมาแล้วในรุ่นก่อน ๆ แต่สีครีม Beige จะเป็นครั้งแรกที่ทาง Samsung นำมาใส่ในแท็บเล็ตรุ่นเรือธง จากเดิมที่เคยอยู่เฉพาะในมือถือเท่านั้น

ได้ฟีเจอร์ใหม่จาก ONE UI 5.1.1

Samsung Galaxy Tab S9 Series คาดว่าจะติดตั้งมาพร้อมกับ One UI 5.1.1 เวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำงานบน Android 13 ฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยฟีเจอร์ที่จะมากับเวอร์ชั่นนี้จะเน้นไปที่การใช้งานแบบ Multi-Tasking เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้แท็บเล็ต และมือถือจอพับของ Samsung ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งฟีเจอร์ที่จะเพิ่มเข้ามาคร่าว ๆ มีดังนี้

  • มีฟอนต์รูปแบบนาฬิกาหน้า Home Screen ให้เลือกเยอะขึ้น
  • ซ่อนหน้าต่าง Pop-Up พร้อมดึงกลับมาใช้งานได้ง่าย ๆ

รวมฟีเจอร์ใหม่ One UI 5.1.1 พร้อมรายชื่อมือถือ / แท็บเล็ต Samsung Galaxy ที่จะได้อัปเดตเร็ว ๆ นี้

รุ่น FE จะกลับมา แต่จะยังไม่เปิดตัวรอบนี้

ตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวลือที่พูดถึงแท็บเล็ตรุ่นสเปคคุ้ม ราคาประหยัดอย่าง Galaxy Tab S9 FE และ Tab S9 FE+ ออกมาบ้างแล้ว ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมาพร้อม Design Language ที่เหมือนกับซีรีส์ปกติ แต่ด้านชิปเซ็ตจะเปลี่ยนไปใช้ชิประดับกลางอย่าง Exynos 1380

โดยรุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมกล้องเพียงตัวเดียว พ่วงด้วย RAM 6GB ส่วนรุ่นใหญ่อย่าง Tab S9 FE+ จะมาพร้อมกล้องหลังคู่ มีเลนส์ Ultrawide เป็นครั้งแรกของซีรีส์ ส่วน RAM จะมีขนาด 8GB นอกจากนี้ยังมีการปรับลดลำโพงจาก 4 ตัว เหลือเพียงลำโพงคู่สเตอริโอ 2 ตัวเท่านั้น


ปกติแล้ว Samsung มักจะเปิดตัว Galaxy Tab FE Series หลังจากเปิดตัวซีรีส์หลักมาสักระยะหนึ่ง (ประมาณ 6 – 9 เดือน ) ดังนั้นคาดว่าทั้ง Galaxy Tab S9 FE และ Tab S9 FE+ จะยังไม่เปิดตัวภายในปีนี้ อาจจะได้เห็นอีกทีช่วงกลางปีหน้า แต่ไม่แน่ทั้งสองรุ่นอาจจะเปิดตัวพร้อมกับซีรีส์หลักในงาน Galaxy Unpacked 2023 ที่กำลังจะถึงนี้ก็เป็นได้

ราคาเปิดตัวเท่าไหร่?

ณ ตอนนี้ ทั้ง Samsung Galaxy Tab S9 / Tab S9+ / Tab S9 Ultra  ได้หลุดราคาเปิดตัวในยุโรปมาให้ทราบกันแบบคร่าว ๆ แล้ว ดังนี้

  • Tab S9 ความจุ 8GB/128GB (Wifi) หน้าจอ 11 นิ้ว อยู่ที่ 929 ยูโร หรือราว 35,800 บาท
  • Tab S9 ความจุ 12GB/256GB (Wifi) หน้าจอ 11 นิ้ว อยู่ที่ 1,049 ยูโร หรือราว 40,400 บาท 
  • Tab S9+ ความจุ 12GB/256GB (Wifi) หน้าจอ 12.4 นิ้ว อยู่ที่ 1,149 ยูโร หรือราว 44,200 บาท 
  • Tab S9 Ultra ความจุ 12GB/256GB (Wifi) หน้าจอ 14.6 นิ้ว อยู่ที่ 1,369 ยูโร หรือราว 52,000 บาท 

และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าราคามือถือ และแท็บเล็ตในโซนยุโรปมักจะสูงกว่าที่บ้านเราประมาณ 15 – 30% ซึ่งถ้าเราคำนวณเป็นราคาบาทโดยกะไว้ที่ราคาต่ำกว่ายุโรปประมาณ 25% ในประเทศไทยน่าจะเปิดราคาขายมาในราคาดังนี้

  • Tab S9 8GB/128GB ราคา 26,850 บาท
  • Tab S9  12GB/256GB ราคา 30,300 บาท
  • Tab S9+ 12GB/256GB ราคา 33,150 บาท
  • Tab S9 Ultra 12GB/256GB ราคา 39,000 บาท

คาดการณ์สเปค Samsung Galaxy Tab S9 Series (ไม่ใช่สเปคจริง)

สเปค Galaxy Tab S9 Galaxy Tab S9+ Galaxy Tab S9 Ultra
จอแสดงผล ขนาด 11 นิ้ว / Dynamic AMOLED 2X /
รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz / ความละเอียด WQXGA
รองรับ S Pen
ขนาด 12.4 นิ้ว / Dynamic AMOLED 2X /
รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz / ความละเอียด WQXGA+
รองรับ S Pen
ขนาด 14.6 นิ้ว / Dynamic AMOLED 2X /
รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz / ความละเอียด WQXGA+
รองรับ S Pen
CPU  Snapdragon 8 Gen 2 (อาจเป็นรุ่น For Galaxy)
ความจุ  8GB + 128GB
12GB + 256GB
12GB/256GB 8GB +128GB (UFS 3.1)
12GB + 256GB (UFS 4.0)
16GB + 512GB (UFS 4.0)
กล้องหลัง 13MP 13MP + Ultrawide 8MP
กล้องหน้า 12MP 12MP  12MP + Ultrawide 12MP
แบตเตอรี่ 8,400 mAh 10,000 mAh 11,200 mAh
มาตรฐานความทน IP68
ขนาดตัวเครื่อง 254.8 x 165.8 x 5.9 มม.  285.4 x 185.4 x 5.7 มม 326.4 x 208.6 x 5.5 มม.

สรุปสเปคหลุด Samsung Galaxy Watch6 Series

รุ่น Classic กลับมาแล้ว

สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะในรอบนี้นอกจากจะเปิดตัวรุ่นมาตรฐานตามปรกติแล้ว ทาง Samsung ยังได้เตรียมต้อนรับ Galaxy Watch6 Classic รุ่นหน้าปัดหมุนได้จริงให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง หลังจากรุ่นที่แล้วได้สลับนำรุ่น Pro ออกมาแทน แต่ดีไซน์โดยรวมทั้งซีรีส์มาตรฐาน และรุ่น Classic จะยังคล้าย ๆ เดิมไม่เปลี่ยนแปลง

อัปเกรดสเปครอบด้าน




ทั้ง Galaxy Watch6 และ Galaxy Watch6 Classic จะมาพร้อมกับจอแสดงผลที่ขอบน้อยลงกว่าเดิม 30% และจะได้จอแสดงผลที่ใหญ่กว่าเดิม 20% แถมยังได้ใช้ชิปประมวลผลตัวใหม่ Exynos W930 ที่รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่ล่าสุดอย่าง Bluetooth 5.3 แถมยังมีการเพิ่มความจุแรมจากเดิมที่ให้มาแค่ 1.5GB เพิ่มขึ้นมาเป็น 2GB พ่วงด้วยความจุขนาด 16GB

เพิ่มความจุแบตเตอรี่ครบทุกรุ่น




Galaxy Watch6 คาดว่าจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่อัปความจุมามากกว่าเดิม โดยในรุ่นมาตรฐานหน้าปัด 40 มม. จะได้แบตเตอรี่ขนาด 300 mAh (อัปเกรดจากความจุ 284 mAh ในรุ่นก่อน) ส่วนรุ่นหน้าปัด 44 มม. จะได้แบตเตอรี่ขนาด 425 mAh (อัปเกรดจากความจุ 410 mAh ในรุ่นก่อน)

ส่วน Galaxy Watch6 Classic ในรุ่นหน้าปัด 43 มม. จะได้แบตเตอรี่ขนาด 300 mAh ส่วนรุ่นหน้าปัด 47 มม. จะได้แบตเตอรี่ขนาด 425 mAh ซึ่งถ้าเทียบกับ Galaxy Watch4 Classic ถือว่าอัปเกรดเยอะพอสมควร ( 42 มม. 247mAh / 46มม. 361 mAh)

นอกจากนี้แหล่งข่าวยังได้เผยว่าในรุ่นล่าสุดนี้จะประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิมถึง 20% ซึ่งคาดว่าน่าจะได้อานิสงส์จากชิปรุ่นใหม่ Exynos W930 ที่เปลี่ยนมาผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด  5 นาโนเมตร คอยช่วยในเรื่องการจัดการให้ดีขึ้นก็เป็นได้

ตัวเรือนมาในโทนสีสุขุม



ตัวเลือกสี Galaxy Watch6

Galaxy Watch6 Series ทุกขนาดหน้าปัดทั้งในรุ่นธรรมดา และรุ่น Classic จะมาพร้อมตัวเลือกสีตัวเรือนแบบมาตรฐานให้เลือก 2 สี คือ สีเทา Graphite และสีเงิน Silver แต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง Galaxy Watch6 40 มม. จะไม่มีสีเงินให้เลือก แต่จะมีสีทอง Gold ซึ่งเป็นสีที่มาแทนที่สี Pink Gold ในรุ่นที่แล้วมาให้เลือกแทน นอกจากนี้คาดว่าจะมีตัวเรือนสีพิเศษมาให้เลือกเพิ่มเติมกันในบางตลาดด้วย


ตัวเลือกสี Galaxy Watch6 Classic

One UI Watch 5 ฟีเจอร์ใหม่เพียบ

Galaxy Watch6 Series คาดว่าจะติดตั้งมาพร้อมกับ One UI Watch 5 (มีพื้นฐานเป็น Google Wear OS 4) ซึ่งตอนนี้มีฟีเจอร์สุขภาพที่ทาง Samsung ยืนยันแล้วว่าจะมาในระบบเวอร์ชั่นใหม่คือฟีเจอร์ตรวจจับ และแจ้งเตือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ Irregular Heart Rhythm Notification (IHRN)

Wear OS 4 Gmail
WhatsApp Wear OS 4

และเนื่องจาก One UI Watch 5 มีพื้นฐานเป็น Google Wear OS ทำให้ Galaxy Watch6 Series จะได้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน Wear OS 4 มาใช้กันเพิ่มเติมด้วย โดยจะมีแอปใหม่อย่าง Gmail, Google Calendar และ WhatsApp ให้ใช้งาน มี Tiles ใหม่จาก Spotify เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และยังมีฟีเจอร์ที่สามารถสำรองข้อมูล กู้คืนข้อมูล รวมถึงถ่ายโอนข้อมูลการตั้งค่าเวลาย้ายนาฬิกาได้โดยตรงผ่านระบบ Cloud เพิ่มเข้ามาด้วย

เปิดตัว Google Wear OS 4 ระบบนาฬิกาอัจฉริยะเวอร์ชั่นใหม่ แอปเยอะขึ้น รองรับ Cloud Backup และประหยัดแบตกว่าเดิม

ราคาเปิดตัวเท่าไหร่?

ราคา Galaxy Watch6 โซนยุโรป (ยังไม่คอนเฟิร์ม)

สำหรับราคายุโรปที่หลุดออกมาของ Galaxy Watch6 หากเทียบกับราคาเปิดตัวของ Galaxy Watch5 รุ่นมาตรฐานถือว่าสูงกว่ากันเล็กน้อย เพราะในฝั่ง EU เริ่มต้นที่ราคาราว ๆ 299 ยูโร หรือราว ๆ 11,300 บาทเท่านั้น โดยราคาทุกรุ่นย่อยเปิดมาดังนี้

  • Galaxy Watch6 (Bluetooth) หน้าปัด 40 มม. ราคา 319 ยูโร (~12,000 บาท)
  • Galaxy Watch6 (4G LTE) หน้าปัด 40 มม. ราคา 369 ยูโร (~14,000 บาท)
  • Galaxy Watch6 (Bluetooth) หน้าปัด 44 มม. ราคา 349 ยูโร (~13,000 บาท)
  • Galaxy Watch6 (4G LTE) หน้าปัด 44 มม. ราคา 399 ยูโร (~15,000 บาท)

ราคา Galaxy Watch6 Classic โซนยุโรป (ยังไม่คอนเฟิร์ม)

ในฟากของ Galaxy Watch6 Classic เมื่อเทียบกับใน Watch5 Pro ที่เปิดราคาเริ่มต้นมาที่ 469 ยูโร (~17,800 บาท) รุ่นใหม่ถือว่าถูกกว่ากันอยู่พอสมควร โดยในรุ่น Classic มาทั้งหมด 4 รุ่นย่อยเช่นกัน ดังนี้

  • Galaxy Watch6 Classic (Bluetooth) หน้าปัด 43 มม. ราคา 419 ยูโร (~15,900 บาท)
  • Galaxy Watch6 Classic (4G LTE) หน้าปัด 43 มม. ราคา 469 ยูโร (~17,800 บาท)
  • Galaxy Watch6 Classic (Bluetooth) หน้าปัด 47 มม. ราคา 449 ยูโร (~17,000 บาท)
  • Galaxy Watch6 Classic (4G LTE) หน้าปัด 47 มม. ราคา 499 ยูโร (~18,900 บาท)

ปกติแล้วยุโรปมักจะเปิดราคามาสูงกว่าบ้านเราที่ราว ๆ 15 – 30% หากลองคำนวณหักลบดูแล้ว Galaxy Watch6 รุ่นเริ่มต้นน่าจะขายในบ้านเราที่ประมาณ 8,xxx บาท ส่วน Watch6 Classic น่าจะเปิดมาที่ราว ๆ 11,xxx บาท ไม่น่าห่างจากเดิมมากเท่าไหร่

Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series จะเปิดตัวตอนไหน?

Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน Galaxy Unpacked 2023 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 เวลา 6 โมงเย็น ณ ประเทศเกาหลีใต้ ภายในงานนอกจากจะเปิดตัวแท็บเล็ต และนาฬิกาอัจฉริยะแล้ว ยังมี 2 มือถือจอพับอย่าง Galaxy Z Flip 5 และ Galaxy Z Fold5 เปิดตัวมาพร้อมกันด้วย ใครสนใจติดตามรับชมไลฟ์จากทาง DroidSans ได้เหมือนเดิมนะ

 

แหล่งอ้างอิง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า