Sony WH-CH720N หูฟังไร้สาย Over-Ear ขวัญใจนักฟังงบประหยัด เปิดตัวในราคาราว 3,400 บาท
หากใครที่เคยประทับใจกับหูฟังไร้สาย Over-Ear ระดับเริ่มต้น อย่าง Sony WH-CH710N จะต้องยินดีกับข่าวนี้แน่นอน เพราะล่าสุดหูฟังรุ่นภาคต่อ Sony WH-CH720N ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งในรอบนี้ก็มาพร้อมกับสเปกภายในที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ให้คุ้มค่ามากกว่าในรุ่นเดิม ส่วนราคาเปิดตัวในสหรัฐฯ ก็ยังคงน่าพอใจที่ 150 เหรียญ (ราว ๆ 3,400 บาท ยังไม่รวมภาษี)
Sony WH-CH720N มาพร้อมกับดีไซน์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้สวยงาม ถูกหลักการยศาสตร์ ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น แถมน้ำหนักยังเบาเพียง 192 กรัม เบาที่สุดในบรรดาหูฟังไร้สาย Over-Ear ที่รองรับการตัดเสียงรบกวนแบบ ANC มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ฟังได้ยาวนาน 35 ชั่วโมงแม้จะเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน
ส่วนภายในก็ได้อัปเกรดเทคโนโลยีใหม่หลาย ๆ อย่าง เช่นอัปเกรดการเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5.2 พร้อมรองรับ Multipoint Connectivity ที่สามารถเชื่อมต่อหูฟังกับหลาย ๆ อุปกรณ์, รองรับ Windows Swift Pair และ Google Fast Pair เชื่อมต่อง่าย พร้อมตามตำแหน่งได้ผ่านมือถือ Android, มีระบบ Voice Control สั่งการด้วยเสียงฝังมาในตัว เพื่อปรับระดับความดัง หรือเปลี่ยนเพลง แถมยังใช้งานร่วมกับ Google Assistant หรือ Amazon Alexa ได้ด้วย
นอกจากนี้แล้ว ตัวหูฟังยังมาพร้อมกับชิปตัดเสียงรบกวน Sony Integrated Processor V1 ตัวเดียวกับที่ใส่มาในรุ่นระดับเรือธงอย่าง WH-1000XM5 ทำงานร่วมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนที่อยู่ในหูฟังฝั่งละ 2 ตัว และเซนเซอร์ Sony Dual Noise ที่จะช่วยปิดกั้นเสียงจากภายนอก ซึ่งโหมดตัดเสียงรบกวนในรุ่นนี้มีให้เลือกปรับตามความต้องการถึง 20 ระดับ มาพร้อมฟีเจอร์ Adaptive Sound Control ที่สามารถตั้งค่าโหมด ANC ให้เข้ากับแต่ละสถานที่ หรือกิจกรรมได้
ในรุ่นนี้ยังรองรับระบบ Digital Sound Enhancement Engine (DESEE) ที่จะช่วยปรับปรุง หรือเติมรายละเอียดให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีใกล้เคียงเสียงจากต้นฉบับมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง 360 Reality Audio และ Dolby Atmos
ราคา และวันวางจำหน่าย
Sony WH-CH720N เปิดตัวมาด้วยกันถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว และสีน้ำเงิน สนนราคาอยู่ที่ 150 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 3,400 บาท (ยังไม่รวมภาษี) ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเข้ามาจำหน่ายเมื่อไหร่ ต้องคอยติดตามหน้าเพจเฟซบุ๊ก Sony Thai กันอีกทีนะ
ที่มา: Sony US, GizmoChina