Huawei ขยายความสามารถ AI ไปอีก 9 อุตสาหกรรม ไทยได้ใช้ด้วย

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Huawei ได้จัดงาน Huawei Connect ซึ่งรวมเอาพาร์ทเนอร์จากหลากหลายสาขาไปร่วมงานที่เซี่ยงไฮ้ โดยในงานก็ได้มีการแถลงกลยุทธ์ของบริษัทที่จะลงทุนในด้านเทคโนโลยี AI อย่างเต็มที่ นอกเหนือจากอุปกรณ์เน็ตเวิร์คต่างๆ โดยจะขยายความสามารถไปให้รองรับอีกถึง 9 อุตสาหกรรม ซึ่งไทยเราก็เตรียมได้รับประโยชน์ หลายบริษัทเตรียมเข้าใช้บริการกัน

9 อุตสาหกรรมที่ AI ของ Huawei ขยายการรองรับ ได้แก่

1. Finance Foundation Model Solution
2. Government Foundation Model Solution
3. Intelligent Factory Solution
4. AI-based Power Prediction Solution for Renewable Energy
5. Intelligent Mining Solution for Underground Mines
6. Intelligent E&P Solution
7. Train Freight Detection System (TFDS) Solution
8. Intelligent Transportation System (ITS) Solution
9. AI Weather Forecasting Solution

แต่ละอุตสาหกรรม ผู้ใช้หรือประชาชนอย่างเราๆ อาจจะเข้าไม่ถึงหรือไม่ได้ใช้งานโดยตรง เพราะ AI ในกลุ่มนี้จะช่วยลดการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ ที่ทั้งน่าเบื่อและมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ง่ายจากความเหนื่อยล้าของมนุษย์ รวมถึงงานที่มีความเสี่ยงต่างๆ และไม่มีคนอยากทำได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานรัฐ จะสนใจกันมากที่นำจะเอา AI ไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 

ตัวอย่างของ AI ในการทำงานภาคอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ

ระบบ AI ควบคุมรถไฟ ช่วยตรวจจับและจัดการการเดินรถไฟ สายไหนไป สายไหนมา คนเดินในสถานีต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ตู้ขนส่งสินค้าต่างๆ วันนึงเป็นพันเป็นหมื่นตู้ แทนที่จะต้องใช้คนตรวจสอบจัดการ มีโอกาสผิดพลาดสูง ก็นำเอา AI ไปช่วยจัดการให้เป็นระเบียบได้อย่างง่ายดาย

ระบบช่วยการทำเหมือง ในสภาวะที่เป็นอันตรายกับมนุษย์ก็สามารถใช้ AI พร้อมโรบอทและเครื่องจักรต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และทำให้การทำเหมืองปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม

หรือ AI ช่วยพยากรณ์อากาศ ซึ่งจะสามารถจับรูปแบบของสภาพอากาศได้แม่นยำกว่าเดิม จากการนำเอาข้อมูลที่อยู่มากมาย โยนเข้าไปให้ AI ประเมินผลออกมา

ซึ่งบางหน่วยงานในไทยก็ได้เริ่มนำเอา AI Solution ของ Huawei นี้ไปเริ่มใช้งานแล้วเหมือนกัน

โดยทางผู้บริหารหัวเว่ยยังได้กล่าวย้ำว่าบทใหม่ของการเปลี่ยนแปลงโลกด้วยปัญญาประดิษฐ์กำลังเปิดออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทายต่างๆ มากมาย พร้อมเชิญชวนพาร์ทเนอร์จากทุกส่วนมาร่วมมือกัน ซึ่งฮาร์ดแวร์ที่ทรงประสิทธิภาพของหัวเว่ยก็พร้อมที่จะเป็นกระดูกสันหลังให้กับการเปลี่ยนแปลงนี้ และเร่งให้ AI เกิดขึ้นในทุกอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว ตามสโลแกนของงานที่ว่า  “Accelerate Intelligence”

ภายในงาน Huawei ก็ได้เปิดตัว Atlas 900 SuperCluster ที่ถูกดีไซน์ขึ้นมาเพื่อการเทรน massive AI โดยเฉพาะ ใช้ Xinghe Network CloudEngine XH16800 switch ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างปราณีตและ high-density 800GE ports

สำหรับหน่วยงานใดที่สนใจ ต้องการดูตัวอย่างการใช้งาน และแนวทางการนำไปใช้ ทางหัวเว่ยก็ได้ปล่อย White Papers ที่รวมเอากรณีตัวอย่างจากพาร์ทเนอร์ที่ใช้จริง รวมถึงวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) ที่ทางหัวเว่ยแนะนำ เพื่อให้สามารถเริ่มต้นและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เรียกว่าหัวเว่ยยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขยายธุรกิจต่อไปได้ในสายอุปกรณ์โทรคมนาคม WiFi – 5G และโซลูชั่นด้าน AI แม้จะสะดุดจากการโดนแบนของสหรัฐจนทำให้ไม่สามารถไปต่อในการขายอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในตลาดโลก ซึ่งก็น่าสนใจว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยถึงข้อมูลอย่างเป็นทางการออกมาว่าหัวเว่ยมีการจารกรรมข้อมูล หรือมีความเสี่ยงในเรื่องไหนบ้าง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะถ้าตลาดสมาร์ทโฟนมีหัวเว่ยเข้ามาแจม ก็น่าจะสร้างสีสัน และกระตุ้นให้พัฒนาได้เร็วขึ้นกว่าปัจจุบันอีกมาก