Dyson บุกตลาดหูฟัง เปิดตัว Dyson Zone มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC และหน้ากากกรองฝุ่น ถอดแยกได้

หลายคนอาจคุ้นเคยกับ Dyson ในฐานะผู้ผลิตเครื่องดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องเป่าผม – มาวันนี้ Dyson ขยับขยายมาสู่ตลาดเครื่องเสียงเพิ่มเติม เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นแรกของแบรนด์ Dyson Zone มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC และมีหน้ากากกรองอากาศที่ประกบเข้ากับหูฟังได้ด้วยแม่เหล็ก สามารถกรองอนุภาคได้เล็กสุด 0.1 ไมครอน

Eric Purnama ผู้จัดการฝ่ายการออกแบบของแบรนด์ ให้ข้อมูลว่า Dyson อยากตีตลาดเครื่องเสียงมานานแล้ว หูฟัง Dyson Zone รุ่นนี้ใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 6 ปี สาเหตุที่กินเวลานานเป็นเพราะทีมงานของ Dyson มีความเป็นเพอร์เฟกต์ชันนิสต์สูง ทุกกระบวนการพัฒนาจึงดำเนินไปแบบค่อยเป็นค่อยไป

บริษัทมีการทำโปรโตไทป์ออกมากว่า 500 แบบ ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญในแผนกต่าง ๆ นับพันครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เริ่มตั้งแต่การออกแบบภายนอก คุณภาพเสียง ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวน และระบบกรองอากาศ ซึ่งอย่างหลังเป็นส่วนที่ยาก เนื่องจากต้องออกแบบคอมเพรสเซอร์ให้มีกำลังดูดมากเพียงพอ ในขณะที่ต้องมาส่งเสียงดังจนไปรบกวนการฟังเพลง

นอกจากนี้ Eric Purnama ยังเล่าต่อว่า Dyson มองนิยามของคำว่า ‘เสียงดี’ แตกต่างไปจากผู้ผลิตรายอื่น ที่มักใช้ผู้ทดสอบที่มีทักษะ ‘หูทอง’ ในการกำหนดทิศทางและปรับจูนเสียง แต่วิศวกรของ Dyson ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปด้วย เช่น ค่าสมดุลเสียงซ้ายขวา ค่าการบิดเบือนฮาร์โมนิก และการตอบสนองความถี่ เป็นต้น

Dyson Zone มาพร้อมไมโครโฟน 11 ตัว ตรวจจับเสียงรอบข้างได้ 384,000 ครั้งต่อวินาที และตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 38 เดซิเบล ส่วนในแง่ของการฟังเพลง ตัวหูฟังขับความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 6 Hz ถึง 21 kHz ด้วยลำโพงนีโอไดเมียม 16 โอห์ม ขนาดไดรเวอร์ 40 มม.

จุดเด่นในแง่อื่นของ Dyson Zone คือ สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย จากการออกแบบและเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถัน และสามารถใช้งานได้นานสุด 50 ชั่วโมง กรณีเปิดฟังก์ชัน ANC หรือนานสุด 4 ชั่วโมง กรณีเปิดฟังก์ชัน ANC พร้อมใส่หน้ากากกรองอากาศ

การควบคุม Dyson Zone ทำได้จากปุ่มและจอยสติ๊กขนาดเล็กบนหูฟัง หรือผ่านแอป MyDyson ตัวเดียวกับที่ใช้เชื่อมต่อเครื่องดูดฝุ่นและเครื่องฟอกอากาศของแบรนด์ โดยนอกเหนือจากการควบคุมแล้ว ยังสามารถดูคุณภาพอากาศและระดับเสียง ทั้งภายในและภายนอกหูฟังได้แบบเรียลไทม์

ราคาและการจำหน่าย

Dyson Zone มีให้เลือก 2 สี แบบทูโทนทั้งคู่ คือ Ultra Blue / Prussion Blue และ Prussion Blue / Bright Copper ซึ่งอุปกรณ์ในแพ็กเกจของแต่ละสีจะแตกต่างกัน รวมถึงราคา ดังนี้

Dyson Zone สี Ultra Blue / Prussion Blue

  • ราคา 28,900 บาท
  • อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
    – เคส Quarter Turn
    – สาย USB-C
    – แผ่นกรอง Electrostatic Carbon (x1 ชุด)
    – แปรงทำความสะอาดหน้ากาก Travel Vison Cleaning Brush
    – ปลอกสำหรับหน้ากาก Travel Vison Sleeve

Dyson Zone สี Prussion Blue / Bright Copper

  • ราคา 32,900 บาท
  • อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
    – เคส Explorer
    – สาย USB-C
    – แผ่นกรอง Electrostatic Carbon (x2 ชุด)
    – แปรงทำความสะอาดหน้ากาก Travel Vison Cleaning Brush
    – ปลอกสำหรับหน้ากาก Travel Vison Sleeve
    – ชุดอะแดปเตอร์บนเครื่องบิน In-Flight Adaptor Kit
    – กระเป๋า Soft Pouch

ทั้งนี้ สำหรับ Dyson Zone สี Prussion Blue / Bright Copper จะมีวางขายเฉพาะหน้าร้าน Dyson Demo Store และช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ dyson.co.th เท่านั้น สินค้าเปิดให้สั่งซื้อได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนไส้กรอง มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 1 ปี หากใช้งานทุกวัน สามารถซื้อเปลี่ยนใหม่ได้โดยตรงจาก Dyson เช่นกัน

ที่มา : งานแถลงข่าว | Dyson ประเทศไทย

You may have missed

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า