ChatGPT ระบาดหนัก! กระทบวงการหนังสือ สำนักพิมพ์ต้องหยุดรับงานชั่วคราว หลังพบนักเขียน 500 คนใช้ AI เขียนแทน

เป็นข่าว สะเทือนวงการหนังสือ ไม่น้อย เมื่อสำนักพิมพ์หยุดรับงานเรื่องสั้นชั่วคราว หลังพบว่านักเขียนจำนวน 500 รายใช้ ChatGPT ช่วยเขียนหนังสือ รวมไปถึงหนังสือใน Kindle Store ของ Amazon เขียนโดย AI กว่า 200 เล่ม และได้รับการตีพิมพ์และวางขาย ให้กับนักอ่านไปแล้วทั่วโลก

Photo by : REUTERS

รายงานล่าสุดจาก Clarkesworld Magazine สำนักพิมพ์นิยายวิทยาศาสตร์ ต้องหยุดรับงานเรื่องสั้นจากนักเขียนชั่วคราวพร้อมแบนกว่า 500 เรื่อง เพราะใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเขียน 

รวมไปถึงการพบ ChatGPT เป็นผู้แต่งหนังสืออย่างน้อย 200 เล่มใน Kindle Store ของ Amazon นี่ยังไม่รวมรายชื่อหนังสือที่ไม่ได้เปิดเผยนะคะ จริง ๆ แล้วมีจำนวนเยอะกว่านี้มากทั้งกวีนิพนธ์ มหากาพย์ไซไฟ  และหมวดสาขาอื่น ๆ เนื่องจากนโยบายของ Amazon ไม่ได้กำหนดให้ผู้เขียนเปิดเผยการใช้ AI อย่างชัดเจน

ตัวอย่างงานเขียนที่ใช้ AI

สำนักพิมพ์ยุติการรับต้นฉบับหนังสือ

Neil Clarke บรรณาธิการสำนักพิมพ์ยังกล่าวเพิ่มเติม เราได้มีการแบนหนังสือมากขึ้น 38% หรือนับเป็นทั้งหมดกว่า 500 เรื่องในหนึ่งเดือน โดยหนังสือที่พบได้บ่อยจะจัดอยู่ในกลุ่มหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน

โดย Brett Schickler นักเขียนหนังสือสำหรับเด็กคนหนึ่งที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการผลิตหนังสือเรื่อง The Wise Little Squirrel: A Tale of Saving and Investing เป็นนิทานที่มีความยาว 30 หน้า เพื่อขายในราคา 2.99 ดอลลาร์​ ประมาณ 100 บาท และในแบบดิจิทัล 9.99 ดอลลาร์ ประมาณ 345 บาท ในแบบรูปเล่มเขายังได้ออกมาให้ความเห็นว่าใช้ ChatGPT ในการช่วยเขียนหนังสือจริง แต่รายได้ไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากเริ่มขายในเดือนมกราคม เพราะที่ผ่านมา เขาเห็นผู้คนสามารถสร้างอาชีพได้จากสิ่งนี้ แค่ป้อนชุดคำสั่งการเขียนข้อความ (prompt) ลงใน ChatGPT เพียงไม่กี่ชั่วโมงในการสร้างหนังสือ (สบายเกินไปแล้ว)

ปัญหาที่เกิดขึ้น

นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่สร้างความกังวลใจให้เหล่านักเขียน และผู้อ่านมาหาศาลทั้งในแง่จริยธรรม และความโปร่งใส ทาง Mary Rasenberger  กรรมการบริหารของกลุ่มนักเขียน Authors Guild มองว่า ปัญญาประดิษฐ์จะแย่งงานนักเขียนที่เป็นมนุษย์ รวมไปถึงคุณภาพของหนังสืออาจจะมีแต่หนังสือคุณภาพต่ำ ขาดคุณภาพจนล้นตลาด ยังไม่รวมถึงการที่ AI อาจะไปลอกผลงาน หรือสไตล์การเขียนของศิลปินคนอื่นที่เคยทำมาแล้วอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าโดนไปตอนไหน

 

เราใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ไม่ผิดแน่นอน แต่ควรรู้ว่าใช้ได้แค่ไหน ไม่ใช่นำมาเป็นเครื่องมือทำมาหากินแบบไม่ถูกต้อง หรือมองว่าเป็นโอกาสในการทำเงินแบบง่าย ๆ 

 

ที่มา : engadget

You may have missed

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า