Baidu ทิ้ง NVIDIA สั่งชิป AI จาก HUAWEI หลังสหรัฐฯ ยกระดับมาตรการคว่ำบาตร ห้ามส่งชิป AI ไปจีน

Baidu บริษัทเสิร์ชเอนจิ้นเจ้าใหญ่ในจีน ไม่แคร์แม้สหรัฐอเมริกายกระดับมาตรการคว่ำบาตร ห้ามส่งออกชิป AI ไปจีน เพราะล่าสุดได้ไปสั่งชิป AI กับบริษัทร่วมชาติอย่าง HUAWEI เพื่อพัฒนาแชตบอตตัวล่าสุดอย่าง Ernie Bot แทนที่อดีตคู่ค้าอย่าง NVIDIA ที่เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแล้ว

• รัฐบาลจีนไฟเขียว ให้ Baidu และอีก 11 บริษัท เปิดใช้งาน AI Chatbot กับบุคคลทั่วไปได้แล้ว
• สหรัฐฯ ยกระดับมาตรการคว่ำบาตร เตรียมปิดช่องโหว่ พร้อมจำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีน
• รัฐบาล US ตั้งข้อสงสัย HUAWEI อาจละเมิดมาตรการคว่ำบาตร เพื่อผลิตชิป 7nm 5G

หลังจากที่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่าทางสหรัฐฯ ได้เตรียมยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกเครื่องมือ และชิป AI ไปยังจีน ทำให้ Baidu ที่เป็นคู่ค่ากับ NVIDIA ได้รับผลกระทบแบบเต็ม ๆ และล่าสุดหนึ่งในพนักงานของ Baidu ได้ออกมาเผยว่าทางบริษัทก็ได้แก้เกมด้วยการสั่งชิปที่ผลิตในบ้านจาก HUAWEI แล้ว

โดยทาง Baidu ได้สั่งชิป HUAWEI 910B Ascend AI เป็นจำนวนกว่า 1,600 ชิ้น มูลค่ากว่า 450 ล้านหยวน (ราว ๆ 2.3 พันล้านบาท) เพื่อใช้ในเซิร์ฟเวอร์ของ Ernie Bot กว่า 200 เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งในเดือนตุลาคม 2023 HUAWEI ก็ผลิต และจัดส่งให้กับบริษัทไปกว่า 60% แล้ว และคาดว่าจะจัดส่งได้ครบภายในช่วงสิ้นปีนี้

ซึ่งชิป HUAWEI 910B Ascend AI จริง ๆ แล้วประสิทธิภาพด้านพลังประมวลผลยังถือว่าห่างจากชิป NVIDIA A100 อยู่พอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นชิป AI ที่ล้ำหน้าที่สุดในจีน และถึงแม้ว่ายอดที่ HUAWEI ได้ไป จะไม่เยอะเท่ากับที่ Baidu เคยสั่งกับ NVIDIA แต่ก็ทำให้แหล่งข่าวเชื่อว่าบริษัทพร้อมที่จะตัดความสัมพันธ์ และไม่ต้องพึ่งพาบริษัทของฝั่งอเมริกาแล้วในอนาคต

ส่วนฝั่งของ HUAWEI เองก็มีนักวิเคราะห์ออกมากล่าวว่า มาตรการที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ จะช่วยสร้างโอกาสให้ HUAWEI ได้เติบโตขึ้นในตลาดบ้านเกิดถึง 7 พันล้านเหรียญฯ และคำสั่งซื้อชิปในครั้งนี้ยังถือเป็นการตอกย้ำความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีของ HUAWEI ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ HUAWEI ยังได้ทุนสนับสนุนกว่า 2 พันล้านเหรียญฯ จากรัฐบาลเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เทียบเท่ากับคู่แข่งจากนานาชาติด้วย

อย่างไรก็ตาม Baidu ก็เคยพัฒนาชิป AI ของตัวเองเช่นกันในชื่อ Kunlun AI Chip และบริษัทก็เคลมว่าชิปดังกล่าวรองรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) สำหรับคำนวณด้าน AI ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็ยังคงเลือกที่จะพึ่งพา NVIDIA A100 ในการเทรน AI อยู่เหมือนเดิม

ที่มา: Reuters