Aardman ร่วมกับ Netflix ผลิตภาพยนตร์ชุด “Wallace & Gromit” เรื่องใหม่ พร้อมประกาศรายละเอียดภาคต่อของ “Chicken Run”

เมื่อสตูดิโอผู้ผลิตแอนิเมชันดีกรีรางวัลออสการ์ 4 สมัยที่โด่งดังไปทั่วโลกจับมือกับบริษัทผลิตผลงานบันเทิงระดับโลก นี่คือคู่สร้างคู่สมสำหรับคอแอนิเมชัน

เมื่อปีที่แล้ว Aardman และ Netflix เปิดตัวผลงานแรกที่เกิดจากความร่วมมือของเรา นั่นคือ โรบิน หนูน้อยติดปีก (Robin Robin)ภาพยนตร์เพลงที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม และเพิ่งติดโผรายชื่อผลงานภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องสั้นที่ได้รับการพิจารณาเข้าชิงรางวัลออสการ์ และได้รับการคัดเลือกเข้าชิงรางวัลบาฟตา ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องสั้นที่งดงามจากฝีมือการกำกับของไมกีย์ พลีส และแดน โอจารีนี้ถ่ายทอดความอบอุ่น จริงใจ และอารมณ์ขันแบบจริงใจ ด้วยความที่เรามีความหลงใหลแอนิเมชัน เรื่องราวที่น่าสนใจ และตัวละครสุดอมตะเหมือนๆ กัน ความร่วมมือในครั้งนั้นจึงถือเป็นการปูทางไปสู่โปรเจ็กต์ที่เตรียมจะเข็นลงจออีก 2 เรื่อง ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะแจ้งรายละเอียดล่าสุดให้ทุกคนได้ทราบกัน

โปรเจ็กต์แรกคือผลงานสุดรักของ Aardman และเรื่องราวที่ทำให้ทีมงานทุกคนที่ Netflix ตื่นเต้นอย่าง “Chicken Run: Dawn of the Nugget” ผลงานที่ทุกคนรอคอยซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์แอนิเมชันสต็อปโมชันที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลนี้จะออกฉายในปี 2023 ทาง Netflix เท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Aardman พูดคุยเรื่องการทำภาคต่อนี้กันบ่อยครั้ง แต่ทางสตูดิโอต้องการเรื่องราวที่ลงตัวและพันธมิตรที่เหมาะสม หลังจากได้ร่วมกันทำผลงานเรื่อง Robin Robin ออกมา การหวนมาร่วมงานกันอีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย และนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะที่จะพาฮีโร่จอมกระต๊ากของเรากลับมาสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกด้วย

Chicken Run: Dawn of the Nuggetเป็นผลงานแอ็คชันผจญภัยสุดฮาเฉกเช่นผลงานภาคก่อนหน้าในปี 2000 เมื่อฮีโร่ของคุณต้องระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อบุกเข้าไปในป้อมปราการที่ป้องกันอย่างแน่นหนา แล้วฮีโร่พวกนั้นก็คือไก่ ไก่ และไก่ งานนี้ต้องฮาถึงกึ๋นอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังมีการสอดแทรกเรื่องราวของครอบครัวที่ซาบซึ้งกินใจ เรายินดีที่จะประกาศว่าแทนดิเว นิวตัน และแซคารี่ ลีวายจะมารับบทเป็นจินเจอร์และร็อคกี้ ทั้งคู่เล่นเข้าขากันได้ดีทีเดียว เบลล่า แรมซีย์จะให้เสียงพากย์เป็นมอลลี่ ลูกสาวหัวรั้นของทั้งคู่ เธอเป็นลูกไก่ที่หล่นใกล้ต้นอย่างแท้จริง และจะมาเติมเต็มครอบครัวพ่อแม่ลูกในชีวิตบทใหม่นี้ เจน ฮอร์ร็อกซ์ (แบ๊บส์) อิเมลดา สตอนตัน (บันตี้) และลินน์ เฟอร์กูสัน (แม็ค) จะกลับมาสวมบทบาทเดิม ร่วมด้วยทีมนักแสดงใหม่อย่างโจซี่ เซดจ์วิค-เดวีส์ (ฟริซเซิล) เดวิด แบรดลีย์ (ฟาวเลอร์) โรเมช รังกานาธาน (นิค) แดเนียล เมย์ส (เฟทเชอร์) และนิค โมฮัมเหม็ด (ดร. ฟราย) ด้านแซม เฟลล์ (จาก Flushed Away และ ParaNorman ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์) จะรับหน้าที่กำกับผลงานเรื่องนี้ซึ่งเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำไปแล้ว

นอกจากนี้ เรายังยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าผลงานที่โด่งดังอย่าง Wallace & Gromit จะกลับมาอีกครั้ง นิค พาร์คจะหวนคืนสู่งานที่เขาถนัดด้วยภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่นำแสดงโดยตัวละครขวัญใจของเขา (ที่มีรางวัลออสการ์การันตี) ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเปิดฉายทั่วโลกทาง Netflix เท่านั้น ยกเว้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งจะเปิดตัวผลงานเรื่องนี้ทาง BBC ก่อนฉายทาง Netflix ตลอดเวลาที่ผ่านมานิคนึกอยาก (และคิดว่าต้อง)สานต่อการผจญภัยของสองตัวละครที่เขาเองรู้จักเป็นอย่างดีนี้ให้ได้

นิคจะทำหน้าที่กำกับร่วมกับเมอร์ลิน ครอสซิงแฮม ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เรื่อง Wallace & Gromit จาก Aardman ส่วนมาร์ค เบอร์ตันจะรับหน้าที่เป็นผู้เขียนบท และได้เริ่มดำเนินการเขียนบทและวาดสตอรี่บอร์ดสำหรับภาพยนตร์ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่องนี้แล้ว โดยมีกำหนดเปิดฉายในปี 2024

นอกจากโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้แล้ว เรายังเดินหน้าร่วมมือกันสำรวจตัวละครและเรื่องราวใหม่ๆ เพื่อสร้างผลงานคลาสสิกเรื่องต่อๆ ไปในอนาคตด้วย เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายทอดเรื่องราวอีกมากมายจากความร่วมมือนี้

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ 

Chicken Run: Dawn of the Nugget 

เรื่องย่อ: หลังจากหนีตายจากฟาร์มของทวีดี้มาได้ ในที่สุดฝันของจินเจอร์ก็เป็นจริงเมื่อได้มาพบกับเกาะที่เงียบสงบและปลอดภัยสำหรับไก่ทั้งฝูง แถมห่างไกลจากภยันตรายในโลกของมนุษย์ เมื่อมอลลี่ ลูกสาวตัวน้อยของเธอกับร็อคกี้ฟักตัวออกมา ชีวิตที่ลงเอยด้วยความสุขของจินเจอร์ก็ครบถ้วนสมบูรณ์เสียที ทว่าบรรดาไก่ทั้งหลายบนแผ่นดินใหญ่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามสุดเลวร้ายครั้งใหม่ จินเจอร์และพรรคพวกตัดสินใจว่า แม้จะต้องเสี่ยงกับการสูญเสียอิสรภาพที่ได้มาอย่างแสนยากเย็น แต่คราวนี้พวกเธอจะฝ่าด่านบุกเข้าไปให้ได้

• นักแสดง: แทนดิเว นิวตัน (จินเจอร์) แซคารี่ ลีวาย (ร็อคกี้) เบลล่า แรมซีย์ (มอลลี่) เจน ฮอร์ร็อกซ์ (แบ๊บส์) อิเมลดา สตอนตัน (บันตี้) ลินน์ เฟอร์กูสัน (แม็ค) โจซี่ เซดจ์วิค-เดวีส์ (ฟริซเซิล) เดวิด แบรดลีย์ (ฟาวเลอร์) โรเมช รังกานาธาน (นิค) แดเนียล เมย์ส (เฟทเชอร์) และนิค โมฮัมเหม็ด (ดร. ฟราย)
• ผู้กำกับ: แซม เฟลล์ (จาก Flushed Away, The Tale of Despereaux และ ParaNorman)
• ผู้อำนวยการสร้าง: ปีเตอร์ ลอร์ด, คาร์ลา เชลลีย์, คารี่ย์ เคิร์คแพทริค และนิค พาร์คจะกลับมานั่งแท่นผู้อำนวยการสร้าง
• ผู้สร้าง: สตีฟ เพแกรม (จาก Arthur Christmas) และเลย์ลา โฮบาร์ต 
• ผู้เขียนบท: คารี่ย์ เคิร์คแพทริค, จอห์น โอฟาร์เรลล์ และเรเชล ทันนาร์ด

ภาพยนตร์ Wallace & Gromit (ยังไม่ตั้งชื่อเรื่อง) 

เรื่องย่อ: หลังจากที่วอลเลซประดิษฐ์ “โนมอัจฉริยะ” ที่ดูเหมือนจะมีชีวิตจิตใจขึ้นมา เขาก็กลายเป็นคนที่พึ่งสิ่งประดิษฐ์จนเกินเหตุอย่างที่กรอมมิทหวั่นวิตกจริงๆ เมื่อสถานการณ์ต่างๆ บานปลายจนเกินควบคุม จึงเป็นหน้าที่ของกรอมมิทที่จะต้องระงับความหวาดกลัวและต่อสู้กับพลังชั่วร้าย มิเช่นนั้นวอลเลซอาจจะไม่มีวันกลับมาสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้อีกเลย

• ผู้กำกับ: นิค พาร์ค (ผู้สร้างผลงานเรื่อง Wallace & Gromit และ Shaun the Sheep) และเมอร์ลิน ครอสซิงแฮม (ผู้กำกับกล้องสองเรื่อง Wallace & Gromit: The Curse of the Were-Rabbit และผู้กำกับแอนิเมชันเรื่อง Early Man)
• ผู้สร้างสรรค์เรื่องราว: นิค พาร์ค และมาร์ค เบอร์ตัน (จาก Madagascar, Wallace & Gromit: The Curse of the Were-Rabbit และ Shaun the Sheep Movie)
• ผู้เขียนบท: มาร์ค เบอร์ตัน 
• ผู้สร้าง: แคลร์ เจนนิงส์ (จาก Wallace & Gromit: The Curse of the Were-Rabbit และ Coraline)

ที่มา : Netflix