เปิดตัว Samsung The Freestyle Gen 2 โปรเจกเตอร์พกพารุ่นใหม่ อัปเกรดสเปค พร้อมเพิ่ม Gaming Hub รองรับ Xbox, Nvidia

Samsung The Freestyle Gen 2 โปรเจกเตอร์พกพาขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ที่ Samsung เคยนำมาโชว์ตัวไปหนหนึ่งในงาน CES 2023 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา วันนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ความเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ คือการอัปเกรดประสิทธิภาพของเครื่องให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น (ซึ่งถือเป็นการแก้ไขจุดอ่อนของรุ่นแรก) และการเพิ่ม Gaming Hub สำหรับเล่นเกมบนคลาวด์ — โดย The Freestyle Gen 2 เปิดราคามาที่ 800 ดอลลาร์ (ประมาณ 28,300 บาท) เปิดให้พรีออร์เดอร์แล้วในบางประเทศ แต่ยังไม่มีไทย

จากการที่ The Freestyle Gen 2 ยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม แบบเดียวกับ The Freestyle รุ่นแรก หากจะบอกว่านี่เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์คงไม่ผิดนัก แต่ด้วยราคาที่ถูกลงกว่าเดิมถึง 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,500 บาท) คงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้มันน่าสนใจขึ้นมา นอกจากนี้การที่ตัวมันรองรับ Gaming Hub เหมือนทีวี Samsung รุ่นใหม่ ๆ แล้ว ก็น่าจะเพิ่มความดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มเกมเมอร์ได้บ้างไม่มากก็น้อย โดยจะรองรับการสตรีมเกมผ่านแพลตฟอร์มดัง เช่น Xbox Game Pass และ Nvidia GeForce Now เป็นต้น

The Freestyle Gen 2 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Tizen OS สามารถติดตั้งแอป Netflix, Disney+, YouTube, HBO Max ในตัว ตัวเครื่องมาพร้อมเอนจินประมวลผลภาพ Crystal Engine รองรับการฉายภาพสัดส่วน 16:9 ตั้งแต่ขนาด 30 นิ้ว ไปจนถึง 100 นิ้ว บนความละเอียด Full HD และสามารถขนายเพิ่มเป็นสัดส่วน 21:9 บนขนาด 150 นิ้วได้เมื่อนำ The Freestyle Gen 2 มาต่อกัน 2 ตัว

Samsung ชูจุดเด่นว่า The Freestyle Gen 2 เป็นโปรเจกเตอร์ที่ใช้งานง่าย เนื่องจากมีทั้งระบบปรับโฟกัสและปรับ keystone อัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องมาคอยปรับองศาการฉายภาพและระยะโฟกัสเองเหมือนโปรเจกเตอร์บางรุ่นในตลาด ซึ่งจะสะดวกขึ้นมากสำหรับคนที่ย้ายที่โปรเจกเตอร์ไปมาบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีลำโพงในตัวที่ให้เสียงรอบทิศทาง 360 องศา และรองรับการต่อพ่วงแบตเตอรี่เสริมที่ด้านท้ายของตัวเครื่อง (เป็นอุปกรณ์เสริมต้องซื้อแยก) หรือแม้กระทั่งเพาเวอร์แบงก์เพื่อใช้งานในลักษณะพกพาเต็มรูปแบบอีกด้วย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อยังให้มาพอร์ตเดียว คือ Micro HDMI

สเปค Samsung The Freestyle Gen 2

• ความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล
• ขนาด 30 – 100 นิ้ว บนสัดส่วน 16:9
• รองรับ HLG
• รองรับ HDR10+
• คอนทราสต์เรโช 100,000:1
• ความสว่าง 230 ANSI
• อายุการใช้งานหลอด LED 30,000 ชั่วโมง
• ลำโพง 360 องศา ขนาด 5W
• พอร์ต
  – USB-C x1
  – Micro HDMI x1
• รองรับ Bluetooth 5.2
• รองรับ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac
• ระบบปฏิบัติการ Tizen OS

ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Samsung จะนำ The Freestyle Gen 2 เข้ามาจำหน่ายในไทยหรือไม่ แต่การที่เคยวางขาย The Freestyle ไปแล้ว ก็ทำให้พอจะลุ้นได้อยู่เหมือนกัน

ที่มา : Samsung