เปิดตัว OnePlus 11 5G ยกโฉมดีไซน์ใหม่ ใช้ชิปแรง SD8 Gen 2 ผสานกล้อง 50MP สุดเทพจาก Hasselblad

OnePlus ขอเปิดปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ด้วยการส่งมือถือเรือธงรุ่นแรกของปีนี้อย่าง OnePlus 11 5G ที่มาพร้อมกับชิปรุ่นท็อปตัวแรงใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่มีการปรับรีดีไซน์ใหม่แบบ All New และยังจับมือเหนียวแน่นพัฒนาร่วมกับ Hasselblad เหมือนเดิม แถมในรอบนี้ยังได้ต้อนรับปุ่ม Alert Slider กลับสู่อ้อมอกรุ่นเรือธงอีกครั้ง

OnePlus 11 5G ถึงแม้ว่าจะตัดคำว่า Pro ออกไปแต่สเปคยังคงจัดเต็มเหมือนเดิม เพราะมาพร้อมกับจอโค้งกระจก Gorilla Glass 7 Victus ใช้พาเนล AMOLED LTPO 3.0 ขนาด 6.7 นิ้ว คมชัดระดับ QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล) รีเฟรชเรทลื่นไหลสูงสุด 120Hz สว่างสูงสุด 1300 nits รองรับ Dolby Vision, Always on Display 1Hz แถมยังประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิมด้วย

ด้านประสิทธิภาพของ OnePlus 11 5G ก็แรงได้โล่เพราะมาพร้อมกับชิปเซตประมวลผลใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ประกบคู่มากับหน่วยความจำ RAM LDDR5X และ ROM UFS 4.0 ที่มีให้เลือกทั้งหมด 3 ความจุได้แก่ 12GB+256GB / 16GB+256GB / 16GB+512GB แบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย USB Type C 2.0 สูงสุด 100W มาพร้อมกับระบบระบายความร้อน และสามารถชาร์จได้แม้อากาศหนาวติดลบ 20 องศา

ด้านกล้องถ่ายภาพจับมือพัฒนากับ Hasselblad โดยมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ IMX890 พร้อมระบบกันสั่น OIS ความละเอียด 50MP + กล้อง Ultra-Wide เซนเซอร์ IMX581 ความละเอียด 48MP รองรับการถ่ายภาพแบบ Macro ได้ + กล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP ซูม Optical 2x แถมรอบนี้ยังพ่วงเซนเซอร์ 13-channel multispectral ทำให้เก็บแสงได้สมจริงขึ้น ส่วนกล้องหน้าลดความละเอียดเล็กน้อยให้มาที่ 16MP เท่านั้น

OnePlus 11 5G ยังมาพร้อมกับลำโพงคู่ระบบเสียงรอบทิศทาง Spartial Audio อีกทั้งยังรองรับ Dolby Atmos จับเสียงทิศทางเวลาเล่นเกมได้อย่างแม่นยำ และมีมอเตอร์ระบบสั่น Bionic vibrating motor ขนาดใหญ่ 2 ตัว เพื่อช่วยสร้างการสั่นที่มีมิติช่วยเพิ่มความตื่นเต้นในการเล่นเกม และได้นำปุ่ม Alert Slider เปิดปิดเสียงแบบ Manual อันเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนาน

สเปค ONEPLUS 11 5G

  • หน้าจอโค้ง AMOLED LTPO 3.0 ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 2
  • RAM (LPDDR5X) : 12GB / 16GB
  • ความจุ (UFS 4.0) : 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก : เซนเซอร์ IMX890 ความละเอียด 50MP, กันสั่น OIS (f/1.8)
    • กล้อง Ultra-Wide IMX581 ความละเอียด 48MP มุมกว้าง 115 องศา รองรับการถ่าย Macro 3.5 ซม. (f/2.2)
    • กล้อง Telephoto IMX709 ความละเอียด 32MP, ซูม Optical 2x (f/2.0)
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16MP (f/2.4)
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 (802.11ax), Bluetooth 5.3, NFC, USB-Type C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), Accelerometer, E-Compass, Gyroscope, Rear color temperature sensor,
    Rear 13-channel multispectral sensor, Proximity, Qualcomm Sensor Core, Bionic vibrating motor
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ, Dolby Atmos, Spatial Audio
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสาย 100W
  • ขนาด / น้ำหนัก : 163.1 x 74.1 x 8.53 มม. / 205 กรัม
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย OxygenOS 13.0

ราคา และวันวางจำหน่าย


OnePlus 11 5G เปิดให้สั่งจองแล้ววันนี้ในประเทศจีน และจะวางขายอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 9 มกราคม 2023 มาพร้อมกับตัวเครื่อง 2 สีได้แก่ สีเขียว และสีดำ ด้านหลังใช้วัสดุกระจกสุดหรูหรา และมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นความจุดังนี้

  • รุ่นความจุ 12GB+256GB ราคา 3,999 หยวน (ราว 19,800 บาท)
  • รุ่นความจุ 16GB+256GB ราคา 4,399 หยวน (ราว 21,760 บาท)
  • รุ่นความจุ 16GB+512GB ราคา 4,899 หยวน (ราว 24,240 บาท)

ส่วนโมเดล Global ที่วางขายทั่วโลกมีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2023 ส่วนราคาเปิดตัวจะแตกต่างกัน หรือมีสเปคที่ถูกเพิ่มเข้ามา, ตัดออกไป หรือจะมาพร้อมกับสเปคเดียวกันเลยหรือไม่ ต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด

ที่มา: OnePlus China

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า