เปิดตัว Nothing Phone (2) ภาคต่อมือถือดีไซน์ล้ำ ใช้ชิปเรือธง SD8+ Gen 1 ราคาไทยเริ่มต้น 24,990 บาท

Nothing Phone (2) มือถือดีไซน์แห่งอนาคตได้เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเครื่องโดยรวมแล้วยังมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ได้แบ่งช่องไฟ LED Glyph interface ออกเป็นหลาย ๆ ดวงเพื่อใช้งานแสดงสถานะต่าง ๆ ได้ละเอียดขึ้น ส่วนสเปคก็ได้มีการอัปเกรดใหม่แบบหมดจด พร้อมเปิดราคาวางจำหน่ายมาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท

Nothing Phone (2)

ดีไซน์ภายนอกของ Nothing Phone (2) เมื่อดูเผิน ๆ แล้วอาจคล้ายกับ Phone (1) แบบ 1:1 แต่จริง ๆ มีหลายส่วนที่เปลี่ยนไปพอสมควร อย่างกระจกฝาหลังของตัวเครื่องจะมีความโค้งมนเป็นหลังเต่า มีการเปลี่ยนการจัดวางของโครงสร้างอะไหล่ด้านบนของตัวเครื่องนิดหน่อย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือดีไซน์ LED Glyph interface ที่มีการหั่นแบ่งไฟให้กลายเป็นหลาย ๆ ดวง แถมยังเพิ่มไฟ LED รวมเป็น 33 โซนเพื่อให้แสดงสถานะได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

Nothing Phone (2)

Nothing Phone (2) ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Glyph interface เช่นเมื่อปรับระดับเสียง ไฟที่ด้านหลังก็จะค่อย ๆ ลดระดับลงมา หรือถ้าตั้งนาฬิกาจับเวลาแล้วคว่ำหน้าจอลง หลอดไฟก็จะค่อยลดลงตามเวลา เหมือนเกจพลังในเกมต่อสู้ นอกจากนี้หากมีแอปไหนที่สำคัญต่อเรามาก ๆ เราสามารถตั้งให้ไฟ LED ค้างไว้ตลอดหากมีการแจ้งเตือนจากแอปนั้นเข้ามา

Nothing Phone (2)

นอกจากนี้ทาง Nothing ยังได้ร่วมมือกับกลุ่ม DJ ชื่อดังอย่าง Swedish House Mafia จับมือออกแบบชุดเสียง Glyph Sound Pack เพื่อให้ผู้ใช้งานได้นำมาใช้ในฟีเจอร์แต่งเสียงริงโทนได้ด้วยตนเอง พร้อมขยับไฟ LED เป็นแอนิเมชั่นตามเสียงที่เลือกใช้ด้วย ส่วน Nothing OS 2 เวอร์ชั่นใหม่ก็มาพร้อมกับหน้าตา UI ที่เน้นใช้สีน้อย พร้อมเปลี่ยนสีโลโก้ต่าง ๆ ให้เป็นขาวดำ ดูสบายตามากขึ้น แถมยังมี Widgets ออกแบบใหม่เพียบ

Nothing Phone (2)

นอกจากจุดเด่นเรื่อง Glyph interface ในรอบนี้ทางแบรนด์ยังได้ขยับสเปคตัวเครื่องให้มีความเป็น Premium Phone มากขึ้น โดยหน้าจอแสดงผลได้อัปเกรดให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400 พิกเซล) ใช้พาเนลแบบ LTPO OLED รองรับรีเฟรชเรทแบบ Adaptive 1 – 120Hz ตามการใช้งาน รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ รองรับการสแกนนิ้วแบบ Optical ใต้หน้าจอ

ส่วนประสิทธิภาพรอบนี้ก็หายห่วงเพราะใช้ชิปอดีตเรือธงอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 ที่ถึงแม้ว่าจะตกรุ่นไป 1 Gen แต่ประสิทธิภาพก็ยังยืนอยู่แถวหน้า ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน่วยความจำ 2 ขนาด ได้แก่ 12GB + 256GB / 12GB + 256GB ส่วนแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ได้อัปเกรดนิดหน่อย มีความจุอยู่ที่ 4,700 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย 45W / ไร้สาย 15W ส่วนระบบ Reverse Charging ก็ยังมีให้เหมือนเดิมที่ 5W

ด้านกล้องถ่ายภาพก็ได้รับการอัปเกรดเช่นกัน โดยกล้องหลังคู่จะเขยิบมาใช้เซนเซอร์ Sony IMX890 ความละเอียด 50MP มาพร้อมระบบกันสั่น OIS + EIS ส่วนกล้อง Ultrawide จะยังใช้เซนเวอร์ตัวเดิมอย่าง Samsung JN1 ความละเอียด 50MP รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K@60FPS ส่วนกล้องเซลฟี่ก็มาพร้อมความละเอียดใหม่ 32MP พร้อมปรับตำแหน่งรูกล้องมาไว้ตรงกลาง รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080P@60FPS

Nothing Phone (2) ยังใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะขึ้นตอนการผลิตต่าง ๆ ได้ปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพียง 53.45 กิโลกรัม ลดลงจากรุ่นเดิม 5 กก. นอกจากนี้ยังเคลมว่าตัวเครื่องใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตตัวเครื่องมากกว่ารุ่นเดิมถึง 3 เท่า แถมตัวเครื่องยังใช้ได้ยาวนานเพราะทางแบรนด์การันตีว่าจะอัปเดตเวอร์ชั่น Android ให้สูงสุด 3 ปี และอัปเดตแพทช์รักษาความปลอดภัยให้ทุก ๆ 2 เดือน เป็นเวลา 4 ปีด้วย

สเปค NOTHING PHONE (2)

  • หน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080) รีเฟรชเรท 1 – 120Hz รองรับ HDR10+
  • CPU : Snapdragon 8+ Gen 1
  • RAM : 12GB
  • ความจุ : 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลักเซนเซอร์ IMX890 ความละเอียด 50MP (f/1.88), กันสั่น OIS / EIS
    – กล้อง Ultrawide เซนเซอร์ Samsung JN1 ความละเอียด 50MP
  • กล้องหน้า :  เซนเซอร์ IMX615 ความละเอียด 32MP
  • การเชื่อมต่อ :  5G, 4G LTE, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, NFC, USB-C
  • สแกนนิ้วมือใต้จอ
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอริโอ, ไมโครโฟน 3 ตัว
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54
  • แบตเตอรี่ : 4700 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 45W ไร้สาย 15W (ไม่มีหัวชาร์จแถมในกล่อง)
  • ขนาด / น้ำหนัก : 162.13 x 76.35 x 8.55 มม. / 200.68  กรัม
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย Nothing OS 2
  • สีที่วางจำหน่าย : ขาว ดำ

ราคา และการวางจำหน่าย


Nothing Phone (2) เตรียมวางจำหน่ายในไทยด้วยกัน 2 สี ได้แก่สีขาวสุดคลาสสิก และสีดำที่รอบนี้จะมาในโทนที่สว่างขึ้นเพื่อให้ไฟ LED แสดงผลได้สวยงามกว่าเก่า โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นความจุ พร้อมเปิดราคาไทยมาดังนี้

  • 12GB + 256GB ราคา 24,990 บาท
  • 12GB + 512GB ราคา 27,990 บาท

สำหรับวันวางจำหน่ายในบ้านเรานั้น Nothing Phone (2) 100 เครื่องแรกในประเทศไทยจะวางจำหน่ายที่ Carnival ร้านแฟชั่นแนวสตรีทสาขาสยาม สแควร์ ซอย 7 ในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ ตัวเครื่องมีจำนวนจำกัด ใครไปก่อนได้ก่อนเหมือนเดิมจ้า

ที่มา: Nothing, Carnival BKK

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า