ลองเล่น Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Series เล่นแล้วร้อนมั้ย เล่นดีสมคำเคลมรึเปล่า?

Apple และ Capcom ต้อนรับฮาโลวีนด้วยการเปิดให้เล่นเกมระดับ AAA อย่าง Resident Evil Village เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเจ้าเกมที่ว่านี้น่าจะเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนรอคอย เพราะ Apple ก็อวดประสิทธิภาพของความแรงชิป Apple A17 Pro บน iPhone 15 Pro และ Pro Max ไว้พอสมควรว่าแรงจนเล่นเกมฟอรม์ยักษ์ จนทำให้หลาย ๆ อยากรู้ว่ามันจริงแบบที่ Apple เคลมไว้รึเปล่า วันนี้เราก็เลยจะมาทดสอบให้ดูพร้อม ๆ กันไปเลย

Resident Evil Village บนมือถือ iOS เล่นฟรีมั้ย?

Resident Evil Village เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีบนอุปกรณ์ iOS ที่รองรับ ซึ่งตัวเกมแบบฟรีนั้นจะสามารถทดลองเล่นได้เพียงแค่ช่วงแรกของเนื้อเรื่องเท่านั้น หากต้องการจะเล่นต่อจนจบเกม สามารถซื้อตัวเกมแบบเต็มได้ในราคา 510 บาท และที่สำคัญตัวเกมรองรับโหมดภาษาไทยด้วย

นอกจากนี้ถ้าตัวเกมหลักยังเล่นได้แบบไม่หนำใจ สามารถซื้อ DLC Resident Evil Village – Winters’ Expansion ที่จะเพิ่มโหมดการเล่นแบบมุมมองบุคคลที่ 3, เพิ่มตัวละครใหม่ในโหมด Mercenaries และตัวเนื้อเรื่องเสริม Shadows of Rose ในราคา 319 บาท รวมถึงยังมีคูปอง Extra Content Shop All Access Voucher ปลดล็อกไอเทมตัวเกมทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องเล่นเองในราคา 60 บาท

อุปกรณ์รุ่นไหนรองรับบ้าง?

Resident Evil Village รวมถึงภาค 4 Remake ที่จะวางจำหน่ายในวันพรุ่งนี้จะรองรับเฉพาะบนอุปกรณ์ iOS ที่มาพร้อมกับชิป Apple A17 Pro และ Apple M1 ขึ้นไป และต้องติดตั้ง iOS และ iPad OS เวอร์ชั่น 17.0 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งรุ่นที่ใช้ชิปต่ำจากนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ โดยรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับทั้งหมดมีดังนี้

  • iPhone 15 Pro
  • iPhone 15 Pro
  • iPad Air 5 (ชิป M1)
  • iPad Pro 11 และ 12.9 (ชิป M1 และ M2)

ประสบการณ์การเล่น Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max

ก่อนที่จะได้ไปเล่น Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Series กันแบบจริงจัง ส่วนหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือเรื่องระบบการตั้งค่ากราฟิกที่ทำออกมาได้ค่อนข้างละเอียด โดยบนจอของ iPhone 15 Pro สามารถปรับความละเอียดสูงสุดได้ที่ 2556 x 1179 พิกเซล เช่นเดียวกับ iPhone 15 Pro Max ที่รองรับการปรับจอที่ความละเอียดสูงสุด 2796 x 1290 พิกเซลเท่ากับความละเอียดของตัวจอแสดงผลเช่นกัน ส่วนด้านการกินทรัพยากรนั้นตัวเครื่องจะกัก RAM ไว้ที่ 6GB ไว้ใช้ในการประมวลผลเกมโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับระบบ MetaFX ที่เป็นระบบที่ช่วยเรนเดอร์ภาพจากความละเอียดต่ำ และอัปสเกลให้แสดงกราฟิกแบบคมชัด ความละเอียดสูง และกินทรัพยากรน้อยกว่าการใช้ Hardware เรนเดอร์ความละเอียดสูงแบบ Native ทำให้ตัวเกมเล่นได้แบบสมูธ ๆ ซึ่งตัวเกมจะมี Preset กราฟิกให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ โหมดแนะนำ ที่เป็นโหมดที่เข้ากับประสิทธิภาพของตัวชิปที่สุด, โหมดเน้นสมรรถนะที่ลดกราฟิกบางอย่างลงทำให้เล่นได้ลื่น ๆ, โหมดสมดุล และโหมดเน้นกราฟิก

ซึ่งโหมด Preset ที่ตัวเกมมีให้เลือก จะเปิดการใช้งานระบบ MetalFx ทั้งหมด ซึ่งจากที่ได้ลองทดสอบเล่นในโหมดเน้นกราฟิกที่ความละเอียดสูงสุดของแต่ละรุ่น ก็ถือว่าทำได้ดีเกินคาดหมายทั้งแสง เงาต่าง ๆ ดูด้วยตาเปล่าไม่รู้ว่าผ่านการอัปสเกลมา เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ก็มีบางจังหวะที่มีเฟรมเรตกระชากเป็นช่วง ๆ แต่ถ้าเปิดการเรนเดอร์กราฟิกแบบ Native ต้องบอกตรง ๆ ว่า อาจจะหืดขึ้นคอพอสมควร เพราะจะมีบางจังหวะที่กระตุกสุด ๆ จนเวียนหัวไปเลยก็มี ดังนั้นถ้าจะแบบลื่น ๆ แนะนำว่าให้ปรับกราฟิกตามที่ Pre-Set ที่ระบบแนะนำมาจะดีที่สุด

นอกจากนี้ หากใครที่ต้องการควบคุมเกมผ่าน Virtual Controller บนจอโดยตรง บอกเลยว่าไม่เหมาะสุด ๆ เพราะด้วยปุ่มต่าง ๆ บนจอที่ค่อนข้างเยอะลายตา และกินเนื้อที่จอแสดงผลไปแบบเต็ม ๆ ทำให้มองรายละเอียดในเกมแทบไม่เห็น แถมยังมีนิ้วมาคอยบังสายตาทำให้เล่นได้ไม่ถนัด แถม UI ก็เล็กจิ๋วจนต้องเพ่งอ่านแบบสุด ๆ ถึงจะมองเห็น (โดยเฉพาะบน iPhone 15 Pro ที่มีขนาดเพียงแค่ 6.1 นิ้วเท่านั้น) แถมการเล่นผ่านทัชกรีนยังควบคุมได้ยากสุด ๆ ทำเอาเวียนหัวเลยทีเดียว

ส่วนตัวแนะนำว่าใครที่อยากเล่น Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max อยากให้ลองหาจอย Bluetooth เสริมมาสักอันหนึ่งจะให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีกว่ามาก ๆ แต่ถ้าใครที่มีจอย Xbox, DualSense ของ PS5 หรือ Joy-Con ของ Nintendo Switch ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อเพื่อเล่นได้ นอกจากนี้ยังสามารถต่อจอ Monitor เสริมเพื่อเล่นบนจอใหญ่ผ่านพอร์ต USB-C ได้ด้วย

เล่นแล้วเครื่องร้อนรึเปล่า?

หลังจากที่ได้ลองเล่นบน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่อัปเดตเป็น iOS 17.1 แล้ว โดยเปิดโหมดกราฟิก Preset ไว้ที่โหมดเน้นกราฟิก พร้อมปรับความละเอียดของจอแสดงผลไว้ที่ 2342 x 1080 พิกเซล พร้อมล็อกเฟรมเรตไว้ที่ 60FPS และลองเล่นในห้องแอร์ติดต่อกันเป็นเวลา 15 นาที พบว่าตัวเครื่องมีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 46 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าร้อนพอสมควร

ส่วนเรื่อง Performace Drop ถือว่ามีอาการกระตุกเป็นช่วง ๆ ในขณะที่เปลี่ยนฉาก เช่นเมื่อเดินเข้าออกบ้าน หรือเดินในพื้นที่ ๆ มีหิมะตกหนัก ซึ่งก็อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดขณะเล่นเล็กน้อย แต่โดยรวมก็ยังถือว่าทำได้ดีมาก ๆ สำหรับการพอร์ตเกมฟอร์มยักษ์กราฟิกระดับคอนโซลมาไว้บนมือถือ

สรุปประสบการณ์การเล่น Resident Evil Village บน iPhone 15 Series

การพอร์ตเกมระดับ AAA มาไว้บน iPhone 15 Pro Series ในรอบนี้ถือว่าทำได้ดีสมคำคุย ซึ่งก็ต้องขอบคุณระบบ Metal FX ที่ช่วยอัปสเกลงานภาพให้ออกมาดูดี และเล่นบนมือถือได้แบบไม่มีปัญหา แต่ส่วนตัวคิดว่ายังไงหน้าจอของ iPhone 15 Pro Series ก็ยังไม่เหมาะกับการเล่นสักเท่าไหร่ เพราะด้วยตัวเกมที่ยังออกแบบ UI ต่าง ๆ โดยยกมาจากแพลตฟอร์มอื่นดื้อ ๆทำให้หน้าตาเมนูในเกมเล็กจนดูยาก

และที่สำคัญระบบการเล่นต่าง ๆ ก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นบนทัชสกรีนโดยเฉพาะ ทำให้การควบคุมผ่านปุ่ม Virtual Controller ทำได้ค่อนข้างลำบาก ซึ่งก็ต้องพกจอย Bluetooth เพื่อต่อเล่นเกมอยู่ดี ดังนั้นใครที่คิดว่าจะพกมือถือเครื่องเดียว ออกไปเล่นเกม AAA ได้ทุกที่ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่นะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า