E3 งานเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปิดตำนาน เลิกจัดงานถาวร

หลังสร้างตำนาน (และมีมต่าง ๆ) มาร่วม 2 ทศวรรษ งาน E3 หรือ Electronic Entertainment Expo งานจัดแสดงเกมที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประกาศปิดตำนาน เลิกจัดงานในอนาคตอย่างเป็นทางการ หลังตัวงานถูกลดความสำคัญลง เพราะบริษัทเกมดังต่างหันไปจัดงานด้วยตัวเอง

Entertainment Software Association ได้ออกมาโพสต์ประกาศเลิกจัดงาน E3 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่เคยจัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 1995 โดย Stanley Pierre-Louis หรือ CEO ของบริษัทผู้จัดงานให้เหตุผลถึงการเลิกจัดงานแบบถาวรเป็นเพราะ บริษัทผู้ผลิต และจัดจำหน่ายเกม ได้หมดความสนใจในการเข้าร่วมงานดังกล่าว และเลือกที่จัดงานด้วยตัวเองเพราะใช้งบน้อยกว่า รวมถึงเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่แฟน ๆ ของค่ายเกมได้ง่ายกว่า ต่างจากงาน E3 ที่เน้นเฉพาะคนในวงการ และสื่อต่าง ๆ เท่านั้น

โดยสัญญาณล่มสลายของงาน E3 เริ่มตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 เพราะนักพัฒนาเกม รวมถึงค่าย 3 เจ้าใหญ่อย่าง Nintendo, Sony PlayStation และ Microsoft Xbox ต่างเริ่มหันไปทำการตลาดโดยเจาะกลุ่มไปที่แฟน ๆ ของค่ายโดยตรง ผ่านช่องทางการ Live streaming โชว์เกมที่จะวางขายในอนาคต

หลังจากนั้นคลื่นลูกใหญ่ก็มาถึง เพราะการระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ทำให้การจัดงานในสถานที่จริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงเริ่มมีคลื่นลูกใหม่อย่างงาน Summer Game Fest ที่เป็นงานในรูปแบบออนไลน์ผ่าน Live Streaming แถมยังจัดเป็นสัปดาห์ – เดือน ทำให้นักพัฒนาต่าง ๆ มีเวลาเตรียมตัว และโชว์ผลงานกันได้มากกว่าปกติ ต่างจาก E3 ที่จัดกันเพียงแค่ 3 วัน และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมที่ค่อนข้างสูง และสร้างความตึงเครียดให้กับทีมงาน จนทำให้การจัดงานเกมในลักษณะออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น

ครั้งสุดท้ายที่ E3 ได้จัดงานในสถานที่จริงคือปี 2019 ซึ่งในครั้งนั้นก็เป็นปีแรกที่ Sony ตัดสินใจถอนตัวออกจากงาน และเลือกไปจัดกับงานอื่น รวมถึงจัดงาน State of Play ด้วยตัวเอง

ส่วนในปี 2020 ก็เจอผลกระทบจาก COVID-19 จนต้องยกเลิกจัดงาน, ในปี 2021 งานก็ได้กลับมาจัดอีกครั้งในรูปแบบนิทรรศการ ส่วนในปี 2022 ก็ได้ประกาศเลิกจัดงานไปด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังไม่ค่อยสู้ดี ท้ายที่สุดในปี 2023 ถึงแม้จะมีการวางแผนการจัดงานแล้ว แต่ไม่มีค่ายเกมเจ้าใหญ่สนใจมาร่วมงานเลย ทำให้ E3 2023 ก็ต้องยกเลิกไปโดยปริยาย

เรียกได้ว่าเป็นการปิดตำนานงานเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลาย ๆ งานที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 อย่างตอนนี้ก็มีงาน The Game Awards ที่พอจะมีศักยภาพที่เทียบเท่ากับงาน E3 แต่ก็มีหลาย ๆ เสียงบ่นว่าตัวงานโฟกัสกับการโฆษณาจนเกินไป จนไปลดบทบาทการแจกรางวัลที่ควรจะเชิดชูผลงานดี ๆ ให้กับคนในอุตสาหกรรมเกมนั่นเอง

ที่มา: E3, The Verge, The Washington Post