10 แอปหาคู่ หาเพื่อนยอดฮิตปี 2023 สำหรับคนเหงาในวันวาเลนไทน์
14 กุมภาพันธ์วนมาที่ไร เหล่าคนโสดก็ได้แต่ทนเหงาทุกที… แต่ปี 2023 นี้ ไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะเราได้รวบรวม 10 แอปหาคู่ แอปหาเพื่อนยอดฮิตปี 2023 มาแนะนำทุก ๆ คนกัน เผื่อจะได้เจอเพื่อนใหม่ หรือหาคนรู้ใจไว้คลายความเหงา ซึ่งแต่ละแอปก็มีฟีเจอร์สนุก ๆ ที่แตกต่างกันออกไป ส่วน 10 แอปที่ว่าจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันดีกว่า
Tinder
Tinder เป็นแอปยอดนิยมตลอดกาลสำหรับคนโสดทั่วทุกมุมโลก เพราะเขาถือเป็นแอปเจ้าแรก ที่นำระบบปัดซ้าย ขวา เพื่อเลือกคนที่สนใจมาไว้บนแอปมือถือ ตัวแอปจะสุ่มคนที่อยู่ในระยะพื้นที่ที่ผู้ใช้งานกำหนดไว้มาให้เลือกปัด หากคนที่เราสนใจเลือกปัดเหมือนกัน ก็จะสามารถเริ่มบทสนทนาได้ทันที ใครที่กำลังหาเพื่อนฝึกภาษาก็หายห่วง เพราะไม่ว่าจะสายฝอ สายเกา หรือสายไหน ๆ ก็มีให้เลือกปัดได้ เพราะแอปนี้เค้าใช้งานกันทั้งโลกจริง ๆ
Tinder สามารถโหลดเพื่อใช้งานฟีเจอร์หลักอย่างการปัด การพูดคุยได้แบบฟรี ๆ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น จำกัดจำนวนการปัดต่อวัน ไม่สามารถย้อนไปยกเลิกคนที่ปัดผิด หรือแอบดูคนที่มาปัดไม่ได้ หากใครอยากใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ เขาก็มีแพ็คเสียเงินรายเดือนให้เลือก 3 ระดับเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้ง Tinder + / Tinder Gold / Tinder Platinum
Tinder แชท คุย หาเพื่อน หาแฟน (Free, Google Play) →
Tinder – Dating New People (Free+, App Store) →
Facebook Dating
สำหรับใครไม่อยากโหลดแอปเพิ่มเติมบนเครื่องให้กินพื้นที่ Facebook ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีฟีเจอร์ลับอย่าง Facebook Dating เพียงแค่กดเข้าไป และสร้างโปรไฟล์ในการออกเดต ก็สามารถใช้งานได้ทันที หากถูกใจใครในนั้น ก็สามารถกดถูกใจหรือส่งข้อความให้กับอีกฝ่ายได้ เมื่ออีกฝั่งกดถูกใจกลับมา ระบบก็จะ Match ให้ และสามารถเริ่มแชตกันในฟีเจอร์หาคู่ได้เลยทันที
สำหรับใครที่กังวลว่าจะเจอเพื่อนตัวเองใน Facebook Dating ก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ Facebook Dating จะไม่แนะนำเพื่อนใน Friend List มาให้ แต่ตัวแอปจะสุ่มหาคนที่ใกล้เคียงตำแหน่งของคุณที่มีความสนใจคล้าย ๆ กันมาให้ รวมถึงยังแนะนำเพื่อนของเพื่อนมาให้อีกด้วย
สามารถเปิดใช้งาน Facebook Dating เพียงทำตามขั้นตอนด้านบน
Omi
Omi เป็นอีก 1 แอปหาคู่ แอปหาเพื่อนที่ยอดนิยมในไทยอยู่ตอนนี้ สังเกตได้จากการยิงแอดโปรโมทที่โฆษณาไปทั่วทุกแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์หลักของแอปก็ยังคล้ายกับแอปหาคู่สมัยนี้ เพียงแค่ปัดซ้าย ปัดขวา เลือกคนที่ถูกใจที่อยู่ในระยะทางใกล้ ๆ กัน ถ้า Match ก็สามารถเริ่มบทสนทนาได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่ล็อกไว้สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินแบบรายเดือนด้วย
จุดเด่นของ Omi อยู่ที่ระบบตรวจสอบคัดกรองที่ค่อนข้างปลอดภัย ตัวแอปมีการใช้ AI เพื่อตรวจสอบรูปถ่ายกับตัวผู้ใช้งานจริง ๆ เพื่อไม่ให้มีการนำรูปภาพมาแอบอ้าง มีการป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งสกรีนคำหยาบคาย และถ้อยคำลามกอนาจาร ทำให้ตัวแอปมีสังคมที่ค่อนข้างคุณภาพกว่าแอปอื่น ๆ
Omi – ออกเดต หาเพื่อน & อื่นๆ (Free, Google Play) →
Omi – Dating, Friends & More (Free+, App Store) →
Coffee Meets Bagel
Coffee Meets Bagel หรือ CMB เป็นแอปสำหรับคนที่เบื่อการปัดแบบเดิม ๆ เพราะตัวแอปจะทำงานด้วยการใช้อัลกอริทึมในการจับข้อมูลการศึกษา ความสนใจต่าง ๆ ที่เรากรอกไว้ในช่องแนะนำตนเอง เพื่อแนะนำคนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน มาให้เราเลือกปัด ซึ่งใน 1 วัน จะจำกัดไว้ที่ 20 – 30 คน ซึ่งทางแอปได้เคลมไว้ว่าวิธีแบบนี้จะสามารถคัดคนที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณนั่นเอง
ทั้งนี้แอป CMB อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ในแอปจะใช้ภาษาอังกฤษคุยกันเป็นหลัก รวมถึงยังมีข้อจำกัดที่ต้องคุยกับคนที่ Match ภายในระยะเวลา 7 วัน ไม่เช่นนั้นคนที่คุณสนใจอาจจะหายไปตลอดกาล แต่ถึงอย่างไร นี่ก็ถือว่าเป็นข้อดี เพราะตัวแอปจะเร่งให้เกิดการพูดคุย ไม่เหมือนแอปอื่น ๆ ที่ Match แล้วโดนดองไว้จนรอเก้อ
Coffee Meets Bagel Dating App (Free, Google Play) →
Coffee Meets Bagel Dating App (Free+, App Store) →
Kooup
แอปหาคู่ ตัวนี้อาจถูกใจสายมูหลาย ๆ คน เพราะฟีเจอร์ในแอปเรียกได้ว่าเข้าใจในเรื่องของความเชื่อคนไทยเป็นอย่างดี มีระบบค้นหาคู่จากดวงสมพงศ์โดยอิงจากข้อมูลดวงราศีเกิด ดวงนักษัตรจีนตามปีเกิดที่ระบุไว้ เพื่อรวบรวมและคำนวณออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ให้ดูเลยว่าคนที่คุณสนใจมีดวงส่งเสริมกับเราหรือไม่
นอกจากนี้แล้ว ตัวแอปเขายังมีระบบค้นหาคู่จากสเปคในฝันที่สามารถระบุได้ละเอียดว่าเราชอบคนสเปคแบบใด ความชอบส่วนตัวเป็นแบบไหน ตัวแอปก็จะกรองคนที่เข้ากับสเปคที่เรากำหนดไว้มาให้ แอปนี้มีข้อดีอยู่อีก 1 อย่าง คือ เราสามารถทักไปหาคนที่เราสนใจได้ทันที ไม่ต้องรอให้เค้า Match เราเหมือนแอปอื่น ๆ
Kooup – หาคู่ หาแฟน จริงจัง (Free, Google Play) →
Kooup – Date Your Soulmate (Free+, App Store) →
Bumble
Bumble เป็น 1 ในแอปหาคู่ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของ Tinder เพราะในระยะหลังมานี้ ตัวแอปได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยตัวแอปใช้ระบบ ปัดซ้าย ปัดขวา ไม่ต่างจาก Tinder หรือแอปอื่น ๆ ในยุคนี้สักเท่าไหร่ แต่แอปนี้มีจุดขายที่ให้ผู้หญิงเริ่มเป็นฝ่ายทักอีกฝ่ายไปก่อนละบังคับให้เริ่มการสนทนาภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าไม่มีใครทักไปก่อนคู่แมตช์ก็จะหายไปทันที
แอป Bumble ไม่ได้มีเพียงแค่ฟีเจอร์หาคู่เท่านั้น ในแอปยังมี Bumble BFF ที่ไว้ใช้หาเพื่อนรู้ใจ ขยายสังคมของตัวเองให้กว้างขวางขึ้น รวมถึงยังมี Bumble Bizz ที่สามารถสร้างเครือข่าย หาคอนเนคชั่น เพื่อสร้างโอกาสในเรื่องของหน้าที่การงานให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เรียกได้ว่าแอปเดียวหาได้ครบทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท และแฟนเลย
Bumble – Dating. Friends. Bizz (Free, Google Play) →
Bumble – Dating. Friends. Bizz (Free+, App Store) →
TanTan
สำหรับใครที่เป็นสายจีน ๆ อยากฝึกสกิลภาษา พร้อมฝึกสกิลหยอดไปพร้อม ๆ กัน TanTan เป็นอีก 1 แอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในหมู่คนจีน ฟีเจอร์หลักยังคงใช้ระบบปัดซ้ายขวาให้คนที่ถูกใจที่อยู่ใกล้ ๆ เหมือนแอปอื่น ๆ เช่นกัน แต่พิเศษสุด ๆ ที่ตัวแอปนี้มีฟีเจอร์อย่าง Moment ที่สามารถอัปเดตความเคลื่อนไหวให้กับคนที่แมตช์ได้ รวมถึงยังมีเกมถามตอบ Q&A Game เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ทั้งสองรู้จักกันมากขึ้น
อย่างที่บอกกันไปว่าแอป TanTan เป็นแอปที่คนจีนใช้กันมากเป็นพิเศษ หากใครที่อยากลองโหลดมาเล่นอาจต้องมีสกิลภาษาจีนที่พอใช้ได้ในระดับหนึ่ง จะได้ไม่มีปัญหาในด้านการสื่อสาร แอปนี้มีฟีเจอร์คล้าย Tinder แทบทุกอย่าง มีระบบเสียเงินเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น แอบดูว่าใครปัดเรามาบ้าง
TanTanคือแอปหาคู่เมืองเดียวกัน (Free, Google Play) →
TanTan – Asian Dating App (Free+, App Store) →
Ansxer
หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตาอย่างเดียว แอป Ansxer คือคำตอบ เพราะนอกจากจะมีฟีเจอร์เบสิคอย่าง ปัดซ้าย ขวาแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำเมื่อปัดเจอคนที่ถูกใจ คือต้องตอบคำถามที่ผู้ใช้รายนั้นตั้งไว้เพื่อวัดทัศนคติของเรา โดยที่อีกฝ่ายจะเห็นคำตอบเรา แต่ไม่เห็นหน้าเรา ซึ่งดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนรอบตอบคำถามของการประกวดนางงามเหมือนกันนะ
Ansxer เหมาะสำหรับคนที่มีกึ๋นด้านการตอบคำถาม เพราะจะ Match หรือไม่ Match กับฝ่ายตรงข้ามนั้น วัดกันที่การตอบคำถามล้วน ๆ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบเขียน ชอบพิมพ์ ชอบแสดงความคิดเห็น ซึ่งทำให้การแมตช์นั้นใช้เวลามากปกติ หากใครที่รู้สึกไม่ทันใจอาจต้องลองใช้แอปอื่น ๆ ที่ถูกใจแทน
Ansxer – แอปหาคู่จากทัศนคติ (Free, Google Play) →
Ansxer – Attitude & NFT Dating (Free+, App Store) →
LitMatch
สำหรับใครที่อยากหาแค่เพื่อนคุยเล่นยามว่างเฉย ๆ ขอแนะนำแอป LitMatch ที่สามารถสุ่มคู่สนทนาได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสโดยที่ไม่เห็นหน้า ไม่มีข้อมูลใด ๆ เลย ตัวแอปจะให้เวลา 180 วินาที ในการพูดคุยทำความรู้ หากการสนทนาเป็นไปได้ด้วยดี ก็สามารถกดไลค์ให้กันและกันเพื่อเพิ่มเพื่อน หรือดูโปรไฟล์ของคู่สนทนาได้ทันที นกไม่นกก็วัดกันที่ 3 นาที แรกนี่แหละ
นอกจากนี้แล้ว หากใครที่ไม่ชอบพิมพ์แชตตอบโต้ยาว ๆ ในแอป LitMatch เค้าก็มีระบบสุ่มโทรให้ด้วยนะ โดยระบบต่าง ๆ ก็คล้ายกับระบบแชต แต่จะให้เวลามากกว่าจาก 3 นาที เป็น 7 นาที แทน ใครที่พูดเก่ง ๆ รับรองว่าจะต้องชอบแอปนี้ พร้อมได้มิตรภาพดี ๆ กลับมาแน่นอน
Litmatch—Make new friends (Free, Google Play) →
Litmatch – Make new friends (Free+, App Store) →
WeGoWhere
หากใครไม่ได้อยากจะมีใครไว้ข้างกายแบบจริงจัง แต่อยากมีเพื่อนฝูงไว้ตั้งตี้ไปกินบุฟเฟต์ ปาร์ตี้ ไปเที่ยว ทำกิจกรรมต่าง ๆ WeGoWhere เรียกได้ว่าตอบโจทย์มาก ๆ เพราะตัวแอปสามารถให้คนเหงาตั้งตี้ชวนไปทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำ ส่วนใครที่สนใจก็สามารถกดจอยร่วมวงได้ พอถึงเวลาที่กำหนดไว้ก็ไปเจอกันหน้างานยกแก๊ง ได้ทั้งเพื่อนเที่ยว และรู้จักคนใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน
กิจกรรมใน WeGoWhere ก็ไม่ได้แค่กิน หรือปาร์ตี้เท่านั้น เพราะในแอปนี้ก็มีสายสุขภาพชวนไปออกกำลังกาย ตีแบด หรือแม้กระทั่งชวนกันไปปีนเขาก็มี วาเลนไทน์นี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนข้างกาย แต่อย่างน้อยแอปนี้ก็ช่วยให้เจอและรู้จักกับมิตรภาพใหม่ ๆ นะ
WeGoWhere (Free, Google Play) →
WeGoWhere (ex EatMatch) (Free+, App Store) →
นี่คือ 10 แอปหาคู่ยอดฮิตปี 2023 ที่เรานำมาฝากทุกท่านกัน หวังว่าทุกคนจะได้ใช้แอปเหล่านี้ เพื่อคลายความเหงาก่อนเทศกาลแห่งความรักที่จะถึงนี้ และสำหรับใครที่เคยได้แฟนหรือมิตรภาพจากแอปเหล่านี้ ก็สามารถมาร่วมแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นวิทยาทานแก่เหล่าคนขี้เหงากันได้นะ 